Investing.com - หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในวันนี้ตามความสูญเสียจากวอลล์สตรีท เนื่องจากแรงหนุนหลังการเลือกตั้งเริ่มชะลอตัว ขณะเดียวกันความคาดหวังต่อข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯ ก็ยังทำให้นักลงทุนเกิดความระมัดระวัง
ตลาดในภูมิภาคยังคงถูกกดดันหลังมาตรการการคลังใหม่จากจีนไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ในขณะที่ความไม่แน่นอนว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และการค้าโลกอย่างไรก็ยังมีผลกระทบเช่นกัน
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ปรับลดลงในตลาดเอเชียหลังวอลล์สตรีทปิดในแดนลบ โดยดัชนีหลุดลงจากจุดสูงสุดหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วหลังชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024
ความคิดเห็นเชิง hawkish จากเจ้าหน้าที่เฟดบางคนก็ยังกดดันความเชื่อมั่นของตลาด หลังนีล คาชคาลี ประธานธนาคารกลางสาขามินนิอาโปลิสได้เตือนว่าหากอัตราเงินเฟ้อนั้นเพิ่มขึ้น มันก็อาจทำให้ธนาคารกลางยังคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
โดยขณะนี้ความสนใจจึงอยู่ที่ข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ที่จะประกาศในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงสูงในเดือนตุลาคม
หุ้นจีนยังคงย่ำแย่หลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามคาด
ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบในวันนี้ ขณะที่ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.6%
ดัชนีทั้งสามยังคงขาดทุนในเซสชั่นการซื้อขายล่าสุด หลังแผนการของจีนในการเพิ่มหนี้จำนวน 10 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านดอลลาร์) ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
นักลงทุนกำลังรอคอยมาตรการการคลังเพิ่มเติมที่มุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงการใช้จ่ายของผู้บริโภคและสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดย Bloomberg รายงานว่าจีนกำลังพิจารณาการลดภาษีซื้อบ้านเพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าข่าวนี้จะไม่ได้ช่วยหนุนหุ้นท้องถิ่นได้มากนัก
นักวิเคราะห์กล่าวว่าปักกิ่งน่าจะกำลังรอท่าทีของนโยบายจากทรัมป์ต่อจีน เนื่องจากเขาได้สัญญาว่าจะเพิ่มภาษีการค้าต่อการนำเข้าสินค้าจากจีน
จีนคาดว่าจะกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงการประชุมทางการเมืองระดับสูงอีกสองครั้งในเดือนธันวาคม
หุ้นเอเชียร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับรายงาน CPI
ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ปรับลดลงในวันนี้ เนื่องจากความคาดหวังต่อข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้เกิดความระมัดระวังของนักลงทุน ตลาดยังต้องจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของ เจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานเฟดในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 1% ขณะที่ดัชนี TOPIX ลดลง 1.1% ด้านบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนเทคโนโลยีอย่าง SoftBank Group Corp. (TYO:9984) ลดลง 0.6% แม้ว่าจะรายงานกำไรประจำไตรมาสในเดือนกันยายนที่ดีกว่าที่คาด
ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้เผชิญกับการขาดทุนอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มการผลิตชิป โดย Samsung Electronics Co Ltd (KS:005930) ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่ปีจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ นอกจากนี้ ซัมซุงยังตามหลังคู่แข่งในการตอบสนองต่อความต้องการชิปหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นจากกระแสการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์
ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 1% จากการขาดทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารและเหมืองแร่ ขณะที่ดัชนีอินเดียฟิวเจอร์ส Nifty 50 มีแนวโน้มเปิดตลาดแบบเชิงลบ หลังจากดัชนีร่วงลงที่ 1% ในเซสชั่นก่อนหน้า
ดัชนี Nifty ยังคงอยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือนหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของอินเดียออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้มากในเดือนตุลาคม