กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน

กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน ภาพยนตร์ไทย กำกับโดย มานพ อุดมเดช ฉายในปี พ.ศ. 2534 โดย บริษัท ที เค อาร์ กรุ๊ป ความยาว 118 นาที นำแสดงโดย สุรศักดิ์ วงษ์ไทย, อังคณา ทิมดี, ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย, มานพ อัศวเทพ เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่เป็นภาพยนตร์ในแนวฟิล์มนัวร์ (Film Noir) โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง The Postman Alway Rings Twice

กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน
กำกับมานพ อุดมเดช
เขียนบทมานพ อุดมเดช
อำนวยการสร้างธวัทชัย โรจนะโชติกุล
(บริษัท ที เค อาร์ กรุ๊ป)[1]
นักแสดงนำสุรศักดิ์ วงษ์ไทย
อังคณา ทิมดี
ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย
มานพ อัศวเทพ
กำกับภาพสุทัศน์ อินทรานุปกรณ์
สุรพงษ์ พินิจค้า
ดนตรีประกอบจำรัส เศวตาภรณ์
ผู้จัดจำหน่ายเครือเอเพ็กซ์
วันฉายพ.ศ. 2534
ความยาว118 นาที
ประเทศไทย
ภาษาไทย
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย

เนื้อเรื่องย่อ

เรื่องราวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 โดย สลัก (สุรศักดิ์) กับ ตวง (ขจรศักดิ์) ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ทำงานที่บริษัทเซฟ และทั้งคู่ก็ได้ร่วมกันงัดตู้เซฟของบริษัท แต่ถูกจับได้และติดคุก ต่อมาสลักหลบหนีออกมาได้ และถูกตำรวจตามล่า จึงหนีไปกบดานอยู่ที่ อ.เบตง โดยทำงานอยู่ในปั๊มน้ำมันห่างไกลแห่งหนึ่งที่มีบุญเพ็ง (มานพ) เป็นเจ้าของปั๊ม บุญเพ็งเป็นคนจิตใจดีมีธรรมะธรรมโม แต่บุญเพ็งมีภรรยาแสนสวยอายุคราวลูกชื่อ ชนาง (อังคณา) สลักโกหกว่าตนชื่อ จรัล แต่จรัลทำงานได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่วางใจของบุญเพ็ง ทุกวันบุญเพ็งจะเก็บเงินไว้ในเซฟประจำ โดยที่ชนางไม่สามารถเปิดได้และไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน แต่เชื่อว่าต้องมีเงินจำนวนมากอยู่ในนั้น เมื่อชนางรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วจรัลเป็นนักโทษที่หนีจากคดีงัดตู้เซฟชื่อ สลัก จึงเสนอให้สลักเปิดเซฟ และจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้ แต่สลักปฏิเสธตลอดมา

ต่อมา ชนางได้ฆ่าบุญเพ็งตาย โดยที่สลักรู้เห็นด้วย ทั้งคู่ปิดปากเรื่องนี้เงียบและฝังศพของบุญเพ็งไว้ที่ปั๊ม จากนั้นก็พยายามจะเปิดเซฟ แต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ วันหนึ่ง ตวงก็ได้ออกจากคุกมาและได้พบกับสลักและชนางที่ปั๊ม ตวงได้เข้าทำงานที่ปั๊มด้วย โดยที่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ท้ายที่สุดความลับก็ไม่อาจจะปิดมิดได้ ก่อนที่ทั้งสามคนจะหักหลังและฆ่ากันเองในที่สุด

ผลสำเร็จ

"กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน" มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "The Dumb Die Fast, The Smart Die Slow" เมื่อออกฉายทำรายได้ไม่มากนัก แม้จะมีเสียงวิจารณ์ในแง่ดี แต่ก็มีหลายเสียงที่วิจารณ์ในแง่ลบด้วยเช่นกัน อาจเป็นเพราะในยุคนั้นผู้คนยังไม่คุ้นชินกับภาพยนตร์ในแนวนี้ก็เป็นได้[2]

ปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกผลิตออกจำหน่ายเป็นวีซีดี โดยบริษัท โรส วีดีโอ ในปี พ.ศ. 2544

รางวัล

รางวัลพระสุรัสวดี (ตุ๊กตาทอง)

  • ถ่ายภาพยอดเยี่ยม - สุทัศน์ อินทรานุปกรณ์

รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง

  • กำกับภาพยอดเยี่ยม - สุทัศน์ อินทรานุปกรณ์
  • ลำดับภาพยอดเยี่ยม - สุรพงษ์ พินิจค้า

รางวัลสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1

  • ผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม - สุรศักดิ์ วงษ์ไทย
  • บันทึกเสียงยอดเยี่ยม - ชาย คงศีลวัต [3]

และภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าประกวดในงานประกวดภาพยนตร์เอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 36 พ.ศ. 2534 ที่กรุงไทเป ไต้หวัน ได้รับรางวัลพิเศษ ภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ (Special Award for Stylistic Integrity) [4]

อ้างอิง

  1. http://www.shc.ac.th/pta/intro.htm
  2. ภาพยนตร์ : ความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์และบริบทศึกษากรณี ฟิล์ม นัวร์ (Film Noir) โดย กฤษดา เกิดดี : วารสารนิเทศศาสตร์ปริทัศน์ ปีที่ 3 ฉบับที่ 1 (มกราคม 2541) โดย คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  3. http://www.thaifilm.com/awards.asp
  4. http://www.thainationalfilm.com/thai/21000/apff_award_list.html

แหล่งข้อมูลอื่น