ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศนามิเบีย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nini (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่ 3883354 สร้างโดย 223.207.45.175 (พูดคุย)
บรรทัด 60: บรรทัด 60:
* [[พ.ศ. 2458]] ตกเป็นเมืองขึ้นของ[[ประเทศแอฟริกาใต้|แอฟริกาใต้]] และตกอยู่ภายใต้การปกครองตาม[[กฎหมาย]]ในปี [[พ.ศ. 2463]] โดยเป็นผลมาจาก[[สนธิสัญญาแวร์ซายส์]]
* [[พ.ศ. 2458]] ตกเป็นเมืองขึ้นของ[[ประเทศแอฟริกาใต้|แอฟริกาใต้]] และตกอยู่ภายใต้การปกครองตาม[[กฎหมาย]]ในปี [[พ.ศ. 2463]] โดยเป็นผลมาจาก[[สนธิสัญญาแวร์ซายส์]]
* [[พ.ศ. 2501]] South West African People's Organization (SWAPO) ก่อตั้งขึ้นเพื่อเคลื่อนไหวทางด้านแรงงาน (Anti - contract Labour Movement)
* [[พ.ศ. 2501]] South West African People's Organization (SWAPO) ก่อตั้งขึ้นเพื่อเคลื่อนไหวทางด้านแรงงาน (Anti - contract Labour Movement)
* [[พ.ศ. 2509]] แอฟริกาใต้ประกาศใช้กฎหมายแบ่งแยกสีผิว ท่ามกลางการต่อต้านของ[[สหประชาชาติ]] SWAPO ใช้กำลังต่อสู้เพื่อเรียกร้อง[[เสรีภาพ]]ตาราชันย์ ฮูเซ็นกวนตีน
* [[พ.ศ. 2509]] แอฟริกาใต้ประกาศใช้กฎหมายแบ่งแยกสีผิว ท่ามกลางการต่อต้านของ[[สหประชาชาติ]] SWAPO ใช้กำลังต่อสู้เพื่อเรียกร้อง[[เสรีภาพ]]
* [[พ.ศ. 2510]] มีการจัดตั้ง UN Council for South West Africa
* [[พ.ศ. 2510]] มีการจัดตั้ง UN Council for South West Africa
* [[พ.ศ. 2511]] [[องค์การสหประชาชาติ]]เปลี่ยนชื่อ South West Africa เป็นนามิเบีย
* [[พ.ศ. 2511]] [[องค์การสหประชาชาติ]]เปลี่ยนชื่อ South West Africa เป็นนามิเบีย
บรรทัด 73: บรรทัด 73:
* [[21 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2533]] ได้รับเอกราชอย่างเป็นทางการจาก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
* [[21 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2533]] ได้รับเอกราชอย่างเป็นทางการจาก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
* [[23 เมษายน]] [[พ.ศ. 2533]] เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 160 ขององค์การสหประชาชาติ และต่อมาเป็นสมาชิกลำดับที่ 50 ของ[[เครือจักรภพ]]
* [[23 เมษายน]] [[พ.ศ. 2533]] เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 160 ขององค์การสหประชาชาติ และต่อมาเป็นสมาชิกลำดับที่ 50 ของ[[เครือจักรภพ]]

== เขตการปกครอง ==
== เขตการปกครอง ==
[[ไฟล์:Namibia Regions numbered.png|thumb|แผนที่แสดงเขตการปกครองในประเทศนามิเบีย]]
[[ไฟล์:Namibia Regions numbered.png|thumb|แผนที่แสดงเขตการปกครองในประเทศนามิเบีย]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:44, 31 มีนาคม 2555

สาธารณรัฐนามิเบีย

Republic of Namibia (อังกฤษ)
ตราแผ่นดินของนามิเบีย
ตราแผ่นดิน
คำขวัญUnity, Liberty, Justice
เพลงชาติNamibia, Land of the Brave
("นามิเบีย มาตุภูมิแห่งความกล้าหาญ")
ที่ตั้งของนามิเบีย
เมืองหลวง
และเมืองใหญ่สุด
วินด์ฮุก
ภาษาราชการภาษาอังกฤษ
การปกครองสาธารณรัฐ
• ประธานาธิบดี
ฮีฟีเกปุนเย โปฮัมบา
• นายกรัฐมนตรี
นาฮัส อังกูลา
เอกราช 
• ประกาศ
21 มีนาคม พ.ศ. 2533
พื้นที่
• รวม
825,418 ตารางกิโลเมตร (318,696 ตารางไมล์) (34)
น้อย
ประชากร
• กรกฎาคม 2548 ประมาณ
2,031,000 (144)
• สำมะโนประชากร 2545
1,820,916
2.5 ต่อตารางกิโลเมตร (6.5 ต่อตารางไมล์) (225)
จีดีพี (อำนาจซื้อ) 2548 (ประมาณ)
• รวม
15.14 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ (123)
7,101 ดอลลาร์สหรัฐ (88)
เอชดีไอ (2545)0.627
ปานกลาง · 125
สกุลเงินดอลลาร์นามิเบีย (NAD)
เขตเวลาUTC+1
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)
UTC+2
ขับรถด้านซ้ายมือ
รหัสโทรศัพท์264
โดเมนบนสุด.na

นามิเบีย (อังกฤษ: Namibia) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐนามิเบีย (อังกฤษ: Republic of Namibia) เป็นประเทศในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก มีพรมแดนติดด้านเหนือกับประเทศแองโกลา และแซมเบีย ด้านตะวันออกเฉียงเหนือติดกับซิมบับเว ทางตะวันออกติดกับบอตสวานา และทางใต้ติดกับประเทศแอฟริกาใต้ นามิเนียได้รับเอกราชคืนจากประเทศแอฟริกาใต้เมื่อ พ.ศ. 2533 มีเมืองหลวงชื่อวินด์ฮุก

ประวัติศาสตร์

  • ปลายพุทธทศวรรษที่ 20 บาร์โธโลมิวส์ (Bartholomius) ชาวโปรตุเกสเป็นชาวยุโรปคนแรกที่เดินทางไปนามิเบีย
  • พ.ศ. 2427 ตกเป็นเมืองขึ้นของเยอรมนี (ยกเว้น Walvis Bay ที่ตกเป็นของอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2421
  • พ.ศ. 2458 ตกเป็นเมืองขึ้นของแอฟริกาใต้ และตกอยู่ภายใต้การปกครองตามกฎหมายในปี พ.ศ. 2463 โดยเป็นผลมาจากสนธิสัญญาแวร์ซายส์
  • พ.ศ. 2501 South West African People's Organization (SWAPO) ก่อตั้งขึ้นเพื่อเคลื่อนไหวทางด้านแรงงาน (Anti - contract Labour Movement)
  • พ.ศ. 2509 แอฟริกาใต้ประกาศใช้กฎหมายแบ่งแยกสีผิว ท่ามกลางการต่อต้านของสหประชาชาติ SWAPO ใช้กำลังต่อสู้เพื่อเรียกร้องเสรีภาพ
  • พ.ศ. 2510 มีการจัดตั้ง UN Council for South West Africa
  • พ.ศ. 2511 องค์การสหประชาชาติเปลี่ยนชื่อ South West Africa เป็นนามิเบีย
  • พ.ศ. 2514 ศาลโลกตัดสินว่าการคงอยู่ในนามิเบียของแอฟริกาใต้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และยืนยันหน้าที่รับผิดชอบขององค์การสหประชาชาติต่อนามิเบีย
  • พ.ศ. 2516 องค์การสหประชาชาติให้การรับรองว่า SWAPO เป็นตัวแทนที่ถูกต้องของชาวนามิเบีย มีการแต่งตั้ง UN Commissioner for Namibia
  • พ.ศ. 2518 แอฟริกาใต้จัดตั้งผู้นำในประเทศและหัวหน้าเผ่าจากเผ่าต่าง ๆ เข้าสู่ Turnhalle Conference ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
  • พ.ศ. 2519 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประณามการกระทำของแอฟริกาใต้ในนามิเบียอย่างเป็นเอกฉันท์
  • พ.ศ. 2521 คณะมนตรีความมั่นคงมีมติที่ 435 จัดให้มีการเลือกตั้งภายใต้การดูแลขององค์การสหประชาชาติและยุติการต่อสู้ระหว่างแอฟริกาใต้กับ SWAPO แต่องค์การสหประชาชาติก็ปฏิเสธการเลือกตั้งที่มีแอฟริกาใต้อยู่เบื้องหลังครั้งนั้น
  • พ.ศ. 2528 แอฟริกาใต้จัดให้มีรัฐบาลชั่วคราว โดยแต่งตั้งผู้แทนผิวดำจากพรรคต่าง ๆ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญของประเทศ
  • พ.ศ. 2531 แอฟริกาใต้ปฏิเสธร่างรัฐธรรมนูญของรัฐบาลชั่วคราว รัฐบาลของแอฟริกาใต้ แองโกลา คิวบา สหภาพโซเวียต และสหรัฐอเมริกา ยอมรับเอกราชของนามิเบียตามนัยของมติที่ 435 ของคณะมนตรีความมั่นคง
  • พ.ศ. 2532 UN Transition Assistance Group ได้จัดการเลือกตั้งที่ยุติธรรมขึ้น แซม นูโจมา ผู้นำของ SWAPO ได้รับการเลือกตั้ง และจัดตั้งคณะรัฐมนตรี
  • 21 มีนาคม พ.ศ. 2533 ได้รับเอกราชอย่างเป็นทางการจาก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
  • 23 เมษายน พ.ศ. 2533 เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 160 ขององค์การสหประชาชาติ และต่อมาเป็นสมาชิกลำดับที่ 50 ของเครือจักรภพ

เขตการปกครอง

แผนที่แสดงเขตการปกครองในประเทศนามิเบีย

ประเทศนามิเบียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 แคว้น (Region) ได้แก่

  1. แคว้นคัปปรีวี
  2. แคว้นอีรองโก
  3. แคว้นฮาร์ดาป
  4. แคว้นคาราส
  5. แคว้นคาวังโก
  6. แคว้นคโฮมาส
  7. แคว้นคูเนเน
  8. แคว้นโอฮังเวนา
  9. แคว้นโอมาเฮเก
  10. แคว้นโอมูซาตี
  11. แคว้นโอชานา
  12. แคว้นโอชีโคโต
  13. แคว้นโอตโจซอนด์จูปา

ภูมิศาสตร์

เนื่องจากมีสภาพเป็นทะเลทรายจึงทำให้อากาศแห้งแล้ง

ภูมิประเทศ

ประกอบไปด้วยพื้นที่สูงและทะเลทราย

ภูมิอากาศ

แห้งแล้ง และกึ่งแห้งแล้ง

ประชากร


ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นมีความใกล้ชิดมากกับแอฟริกาใต้ แต่มีปัญหาทางด้านพรมแดนกับบอตสวานา และ แองโกลา

ความสัมพันธ์กับแองโกลา

นับแต่ปี 2536 ความสัมพันธ์กับประเทศแองโกลาไม่สู้จะราบรื่นนัก เนื่องจากในปี พ.ศ. 2536 กลุ่ม UNITA กล่าวหาว่ากองกำลังของนามิเบียข้ามไปยังชายแดนภาคใต้ของแองโกลาเพื่อช่วยรัฐบาลแองโกลาต่อสู้กับ UNITA แต่นามิเบียปฏิเสธ และต่อมาในปี พ.ศ. 2537 นามิเบียก็ได้ปิดพรมแดนส่วนที่ติดกับแองโกลา หลังจากที่เกิดการต่อสู้ในบริเวณนั้น และชาวนามิเบียถูกฆ่าตาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดน

ความสัมพันธ์กับบอตสวานา

ความสัมพันธ์กับบอตสวานาดำเนินมาด้วยดี จนกระทั่งในต้นปี พ.ศ. 2539 มีข้อขัดแย้งกันเรื่องการปักปันเขตแดนบริเวณแม่น้ำโชเบ

ความสัมพันธ์กับแอฟริกาใต้

ความสัมพันธ์กับแอฟริกาใต้เป็นไปอย่างใกล้ชิด ในการเดินทางไปเยือนนามิเบียเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2537 ประธานาธิบดีเนลสัน มันเดลา แถลงว่ามีความเป็นไปได้ที่แอฟริกาใต้จะยกเลิกหนี้สิน จำนวน 826.6 ล้านดอลลาร์นามิเบีย ที่นามิเบียมีต่อแอฟริกาใต้ตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้รับเอกราช และเมื่อประธานาธิบดีแซม นูโจมา ไปเยือนแอฟริกาใต้ในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2539 ก็ได้ร้องขอต่อสภาแอฟริกาใต้ให้ยกเลิกหนี้สินดังกล่าว และขอให้แอฟริกาใต้ไปลงทุนในนามิเบีย แม้ว่านโยบายต่างประเทศของนามิเบียแตกต่างจากนโยบายของแอฟริกาใต้บางประการ อาทิ นามิเบียสนับสนุนนโยบายของจีน ในการอ้างสิทธิเหนือไต้หวัน และการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลไนจีเรีย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองก็ยังคงดำเนินไปด้วยดี เนื่องจากนามิเบียต้องพึ่งพาแอฟริกาใต้ทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

องค์กรระหว่างประเทศ

นามิเบียเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ กลุ่ม 77 กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non-aligned Movement - NAM) องค์การเอกภาพแอฟริกา (Organization of African Unity - OAU) สหภาพศุลกากรแอฟริกาใต้ (Southern Africa Customs Union - SACU) ประชาคมด้านการพัฒนาแห่งภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Development Community - SADC)


เศรษฐกิจการค้า

  • อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 3 (2542)
  • รายได้ประชาชาติต่อหัว 4,300 ดอลลาร์สหรัฐ (2542)
  • ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2542)
  • อัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 8.5 (2542)
  • อุตสาหกรรมที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์เนื้อบรรจุกระป๋อง ผลิตภัณฑ์นม ฟอกหนัง ทอผ้า เสื้อผ้าสำเร็จรูป
  • ดุลการค้า นำเข้า 1.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งออก 1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • สินค้าเข้าที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและเชื้อเพลิง เครื่องจักรและอุปกรณ์เคมีภัณฑ์
  • สินค้าออกที่สำคัญ เพชร ทองแดง ทองคำ สังกะสี ตะกั่ว
  • สกุลเงิน 1 ดอลลาร์นามิเบีย (NAD) เท่ากับ 100 เซนต์ (cents)
  • อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 6.12 ดอลลาร์นามิเบีย (2543)
  • อัตราการว่างงานสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก (33.8% ในปีพ.ศ. 2547))[1]

การคมนาคม

  • ถนน ในปี 2534 ถนนทั้งหมดมีความยาว 41,815 กิโลเมตร ซึ่งในจำนวนนี้เป็นถนนราดยาง 4,572 กิโลเมตร และมียานพาหนะจำนวน 132,331 คัน
  • ทางรถไฟ ระบบทางรถไฟของนามิเบียเชื่อมกับทางรถไฟสายหลักของแอฟริกาใต้ที่เมือง อาเรียมสว์เลอิ ทางรถไฟในประเทศมีความยาว 2,382 กิโลเมตร ในช่วงปี 2538-2539 มีผู้โดยสารรถไฟ 124,000 คน และมีการขนส่งสินค้า 1.7 ล้านตัน
  • การบินพลเรือน สายการบินแห่งชาติที่เป็นของรัฐชื่อแอร์นามิเบีย มีสนามบินนานาชาติที่เมืองวินด์ฮุกและสนามบินภายในประเทศที่เมืองอีรอส ผู้โดยสารระหว่างประเทศมีจำนวน 215,175 คน และสินค้า 2.8 ล้านกิโลกรัม ส่วนผู้โดยสารภายในประเทศมีจำนวน 7,117 คน และสินค้า 211,218 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีสายการบินอื่นที่บินผ่าน ได้แก่ แอร์ บอตสวานา, แอร์ ซิมบับเว, คอมเมอร์เชียล แอร์เวย์, ลัฟทันซา, เซาท์ แอฟริกัน แอร์เวย์
  • การเดินเรือ ท่าเรือที่สำคัญ ได้แก่ วอลวิส เบย์ (ตรงอ่าววอลวิส)
  • โทรคมนาคม ในปี 2535 มีที่ทำการไปรษณีย์ 72 แห่ง และมีโทรศัพท์ 89,722 เครื่อง สถานีวิทยุนามิเบียมี 3 สถานี และมีสถานีโทรทัศน์ 10 สถานี ในปี 2536 มีโทรทัศน์ จำนวน 27,000 เครื่อง และวิทยุจำนวน 195,000 เครื่อง

อ้างอิง

  1. The Economist, Pocket World in Figures 2007 Edition, 2549

แหล่งข้อมูลอื่น