ฉบับร่าง:โรงเรียนประชาบดี
นี่คือบทความฉบับร่างซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแก้ไขได้ โปรดตรวจสอบว่าเนื้อหามีลักษณะเป็นสารานุกรมและมีความโดดเด่นควรแก่การรู้จักก่อนที่จะเผยแพร่เป็นบทความลงในวิกิพีเดีย กรุณาอดทนรอผู้เขียนคนอื่นมาช่วยตรวจให้ อย่าย้ายหน้าไปเป็นบทความเองโดยพลการ ค้นหาข้อมูล: Google (books · news · newspapers · scholar · free images · WP refs) · FENS · JSTOR · NYT · TWL สำคัญ: ถ้าลบป้ายนี้ออกจะทำให้บันทึกหน้าไม่ได้ ผู้แก้ไขหน้านี้คนล่าสุด คือ วรุฒ หิ่มสาใจ (พูดคุย | เรื่องที่เขียน) เมื่อ 25 ชั่วโมงก่อน (ล้างแคช) |
บทความนี้คล้ายโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์
วิกิพีเดียมิใช่ช่องทางการสื่อสารการตลาดของหน่วยธุรกิจใด ๆ กรุณาเขียนใหม่ด้วยมุมมองที่เป็นกลาง และนำแหล่งข้อมูลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องออก |
โรงเรียนประชาบดี เป็นโรงเรียนเอกชนการกุศล ประเภทการศึกษาพิเศษ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนนทบุรี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ที่ 78/5 หมู่ 1 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี[1]
โรงเรียนประชาบดี Prachabodee School | |
---|---|
ที่ตั้ง | |
ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 1 ตำบลบางตลาด 78/5 หมู่ 1 ปากเกร็ด , นนทบุรี ประเทศไทย | |
ข้อมูล | |
ชื่ออื่น | บ.ป. , PCBD |
ประเภทโรงเรียน | การศึกษาพิเศษ เอกชนการกุศล |
คำขวัญ | เป็นคนดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม |
สถาปนา | 6 พฤษภาคม 2548 (19 ปี 147 วัน) |
หมายเลข | 1112100110 |
ผู้อำนวยการ | นางสาวเยาวลักษณ์ ไวยธารี |
ผู้รับใบอนุญาต | นายพฤฒินันท์ เหลืองไพบูลย์ |
ผู้จัดการ | นายพฤฒินันท์ เหลืองไพบูลย์ |
ประธานนักเรียน | นายพรหมประสิทธิ์ ศรีหะไกร |
ประธานเครือข่ายผู้ปกครอง | นางสาวขณิดา คัณฑิสุวรรณ |
ชั้นเรียนที่เปิดสอน | ระดับปฐมวัย ถึงระดับประถมศึกษา |
พื้นที่ | 2 ไร่ 95 ตารางวา |
สี | สีม่วง – สีน้ำเงิน |
สัญลักษณ์ | พระประชาบดี |
เว็บไซต์ | https://www.prachabodee.ac.th |
ประวัติโรงเรียน
สถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2513 สถานสงเคราะห์แห่งนี้ได้ดำเนินการให้การอุปการะเลี้ยงดูและฟื้นฟูปรับสภาพความพิการ เพื่อให้เด็กพิการผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้สามารถช่วยเหลือตนเองให้ได้มากที่สุด นอกจากการให้การเลี้ยงดูในด้านความเป็นอยู่และฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายแล้ว ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นหนทางนำเด็กพิการไปสู่ความสามารถที่จะพึ่งพาเลี้ยงตนเองได้นั้น คือการศึกษา ซึ่งสถานสงเคราะห์ได้ดำเนินการให้การศึกษาแก่เด็กพิการมาตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปแบบที่เด่นชัด ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาอุปสรรคทั้งในด้านตัวเด็กพิการ ครูผู้สอน และปัญหาด้านอาคารสถานที่ สำหรับปัญหาในตัวเด็กพิการ ได้แก่ สภาพความพิการของเด็กสถานสงเคราะห์ ส่วนใหญ่เป็นลักษณะพิการซ้ำซ้อน และช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากขาดการส่งเสริมให้มีพัฒนาการที่ถูกต้อง สำหรับปัญหาด้านครูที่สถานสงเคราะห์ เป็นครูสามัญ ไม่มีความรู้ทางด้านการศึกษาพิเศษสอนเด็กพิการโดยตรง นอกจากนั้นในด้านอาคารสถานที่เรียนยังไม่เอื้ออำนวยต่อสภาพการเรียนการสอนอีกด้วย เช่น สภาพห้องเรียนเป็นเพิงโปร่งไม่มีฝากั้น ต้องใช้โรงจอดรถเป็นห้องเรียน และห้องเรียนกระจัดกระจายไม่เป็นสัดส่วน บางห้องอบอ้าว คับแคบ เป็นอุปสรรคต่อการเรียนของเด็กที่มีสภาพความพิการที่หลากหลาย[2]
ในปีพุทธศักราช 2524 สถานสงเคราะห์ ได้ขอความร่วมมือไปยังกองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการสอนเด็กพิการและทุพพลภาพ ปากเกร็ด ส่งครูการศึกษาพิเศษ มาช่วยจัดการเรียนการสอนแก่เด็กพิการ ขณะเดียวกันสถานสงเคราะห์ได้ส่งบุคลากรเข้าอบรมหลักสูตรการศึกษาพิเศษ มีผลช่วยให้เด็กพิการได้รับการพัฒนาด้านการศึกษาอย่างเต็มที่ และเด็กพิการได้รับโอกาสพัฒนาความสามารถขั้นเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนภายนอกอีกทั้งผู้ที่มีสภาพความพิการอย่างรุนแรงไม่สามารถไปเรียนภายนอกก็ได้รับโอกาสการเรียนการสอนวัดผลความรู้ในสถานสงเคราะห์ด้วย
สถานสงเคราะห์ฯ สามารถแก้ปัญหาด้านเด็กผู้รับการสงเคราะห์และครูผู้สอนได้แล้ว แต่มีปัญหาด้านอาคารสถานที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอนของเด็กพิการอยู่มาก เนื่องจากสถานสงเคราะห์ขาดงบประมาณในการจัดสร้างอาคารเรียนที่เหมาะสม ดังนั้นในปีพุทธศักราช 2526 สถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด จึงได้จัดทำโครงการสร้างอาคารเรียนภายในสำหรับเด็กพิการในสถานสงเคราะห์ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กพิการในสถานสงเคราะห์ ได้มีอาคารที่เหมาะสมกับสภาพความพิการ และเตรียมความพร้อมด้านการเรียนก่อนที่จะออกไปเรียนยังโรงเรียนภายนอก สำหรับงบประมาณในการจัดสร้างอาคารในระยะแรกเป็นเงินๆ ประมาณสามล้านบาท สถานสงเคราะห์ได้ดำเนินการรณรงค์หาเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2528 เป็นต้นมา โดยมีผู้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสานความฝันสำหรับอาคารเรียนเด็กพิการ จากมวลชนทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เริ่มจากสถานสงเคราะห์ได้จัดทำระฆังเซรามิคเพ้นท์ โดยฝีมือเด็กพิการออกจำหน่ายใบละยี่สิบบาทมีคำเชิญชวนด้วยบทกลอนจากใจเด็กพิการจารึกอยู่ข้างกล่องระฆังนี้
เสียงระฆัง ดังสัญญาณ การศึกษา
ส่งสัญญาณ ความเมตตา คือการให้
สละทรัพย์ ซื้อระฆัง ให้ดังไกล
เพื่อช่วยให้ พวกหนูนี้ มีโรงเรียน
ในการนี้ผู้มีจิตศรัทธาให้ความร่วมมือสนับสนุนช่วยนำไปจำหน่ายจำนวนมากเกินความคาดหมาย ประกอบกับผู้มีผู้ร่วมกันจัดทอดผ้าป่าสามัคคีหารายได้สมบททุนสร้างอาคารเรียนจากคณะรวมน้ำใจ ผู้มีจิตศรัทธาบางท่านได้อนุเคราะห์รวบรวมเงินจากคนไทยในสหรัฐอเมริกาส่งมาช่วยเหลือ และอีกหลายท่านที่ไม่สามารถจะเอ่ยนามได้หมดยังความปลาบปลื้มในความกรุณาที่หลั่งไหลเข้ามาสู่เด็กพิการในสถานสงเคราะห์
ในปีพุทธศักราช 2530 ความฝันของเด็กพิการเริ่มเด่นชัดในความเป็นจริง เพื่อรณรงค์สร้างอาคารเรียนบรรลุตามเป้าหมาย ได้มีการวางศิลาฤกษ์อาคารเรียนโรงเรียนประชาบดี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2530 โดยเจ้าหญิงฟ้าแอนน์ พระวรราชกุมารี แห่งสหราชอาณาจักร
แต่เนื่องจากความต้องการที่จะเป็นโรงเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กพิการที่สมบูรณ์ เป็นแห่งแรกของกรมประชาสงเคราะห์ จึงได้มีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อหาข้อสรุปในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้แบบอาคารที่เหมาะสม และเอื้อประโยชน์กับสภาพความพิการของเด็กในสถานสงเคราะห์ให้ได้มากที่สุด จึงไม่มีการปรับปรุงแบบอาคารและในขณะเดียวกันราคาวัสดุก่อสร้างอาคารเรียนปรับตัวสูงขึ้นถึงเจ็ดล้านห้าแสนบาท จึงต้องมีการรณรงค์หาเงินบริจาคเพื่อสมทบทุนเพิ่มเติมจนครบ การก่อสร้างโรงเรียนจึงเริ่มก่อสร้างในปีพุทธศักราช 2534 โดยสถานสงเคราะห์ฯ ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพเด็กพิการในหลายประการ การก่อสร้างและการตกแต่งภายในอาคารจึงเสร็จในปีพุทธศักราช 2536 รวมระยะเวลาในการเพียรพยายามสร้างโรงเรียนเตรียมความพร้อมเด็กพิการแห่งนี้ถึง 9 ปี
ในปีพุทธศักราช 2536 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารเรียนโรงเรียนประชาบดี เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2536 และได้ทำการเปิดบริการแก่เด็กพิเศษทุกประเภท ในสถานสงเคราะห์ต่างๆใกล้เคียง พร้อมทั้งเด็กพิเศษในชุมชนใกล้เคียง โดยจัดการศึกษาให้กับนักเรียนเป็น 2 ระดับ คือ ปฐมวัยและประถมศึกษา โดยเฉพาะนักเรียนระดับประถมศึกษาได้ประสานกับโรงเรียนประชาสงเคราะห์บ้านปากเกร็ด
ในปีพุทธศักราช 2544 กรมประชาสงเคราะห์มีความประสงค์จะโอนภารกิจด้านการศึกษาให้กับกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการการศึกษาหาแนวทางและรูปแบบสำหรับการจัดตั้งโรงเรียนเพื่อดำเนินการ แต่เนื่องจากโรงเรียนประชาบดี ไม่ได้จัดตั้งเป็นโรงเรียน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (กรมประชาสงเคราะห์) จึงได้ดำเนินการจัดตั้งเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ในปีพุทธศักราช 2548 ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2548 โรงเรียนประชาบดีได้รับอนุญาต ให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนเอกชน มาตรา 15 (3) ประเภทสามัญศึกษา โดยใช้ชื่อว่า “โรงเรียนประชาบดี” ตั้งอยู่เลขที่ 78/5 ซอยติวานนท์ – ปากเกร็ด 1 หมู่ 1 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เปิดสอนระดับปฐมวัย ถึงประถมศึกษา เปิดทำการสอนตั้งแต่ เวลา 08.30 ถึง 16.30 นาฬิกา พักกลางวันตั้งแต่ 12.00 ถึง 13.00 นาฬิกา บริเวณโรงเรียนมีเนื้อที่จำนวน 2 ไร่ 95 ตารางวา ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ รับนักเรียนได้ไม่เกิน 240 คน จำนวน 9 ห้องเรียน รับนักเรียนประเภทไป - กลับ อายุ 5 – 15 ปี ในหนึ่งปีการศึกษา แบ่งภาคเรียนออกเป็น 2 ภาค ภาคต้นตั้งแต่ 16 พฤษภาคม ถึง 10 ตุลาคม ภาคปลายตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 มีนาคม วันหยุดประจำสัปดาห์ วันเสาร์ - อาทิตย์ โรงเรียนเปิดทำการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2548
สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน
ตราสัญลักษณ์ประจำโรงเรียน
ตราของโรงเรียน เป็นแบบรูปวงกลมวงซ้อนกันระหว่างเส้นรอบวงของวงกลมทั้งสอง ด้านบนมีชื่อ “โรงเรียนประชาบดี” และด้านล่างเป็นชื่อ “อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี” เป็นที่ตั้งของโรงเรียนภายในวงกลมเป็นลายโปร่งมีสัญลักษณ์ พระประชาบดี ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ครู นักเรียน และผู้ปฏิบัติงาน
รายนามครูใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนประชาบดี
ลำดับ |
ภาพ |
รายนาม |
วาระการดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|---|
1 |
นางพเยาว์ บังผล | พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2560 | |
2 |
นางสมมารถ จิตยุติ | พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2562 | |
3 |
นางสาวเยาวลักษณ์ ไวยธารี | พ.ศ. 2562 - ปัจจุบัน |
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
นางสาวอรวรรณ ฉิมแป้น นักกีฬากรีฑาพาราลิมปิกทีมชาติไทย
แหล่งข้อมูลอื่น
- ↑ "โรงเรียนประชาบดี". www.prachabodee.ac.th.
- ↑ "โรงเรียนประชาบดี". www.prachabodee.ac.th.