มาเรียแห่งบราบ็องต์ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส
มาเรียแห่งบราบ็องต์ | |
---|---|
พิธีราชาภิเษกของมาเรียในแซ็งต์-ชาแปล ปี ค.ศ. 1275 | |
พระราชินีคู่สมรสแห่งฝรั่งเศส | |
ครองราชย์ | 21 สิงหาคม ค.ศ. 1274 – 5 ตุลาคม ค.ศ. 1285 |
ประสูติ | 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1254 เลอเฟิน |
สิ้นพระชนม์ | 12 มกราคม ค.ศ. 1322 (67 พรรษา) |
พระสวามี | พระเจ้าฟิลิปที่ 3 แห่งฝรั่งเศส |
พระบุตร | หลุยส์แห่งเอฟโรซ์ บล็องช์แห่งฝรั่งเศส ดัชเชสแห่งออสเตรีย มาร์เกอรีตแห่งฝรั่งเศส |
พระบิดา | เฮนริคที่ 3 ดยุคแห่งบราบ็องต์ |
พระมารดา | อาเดอแลดแห่งบูร์กอญ |
มาเรียแห่งบราบ็องต์ (ดัตช์: Maria van Brabant, ฝรั่งเศส: Marie de Brabant) (13 พฤษภาคม ค.ศ. 1254 – 12 มกราคม ค.ศ. 1322[1]) เป็นพระราชินีคู่สมรสแห่งฝรั่งเศสจากการเป็นพระราชินีคนที่สองของพระเจ้าฟิลิปที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ทรงเสด็จพระราชสมภพในเลอเฟินเป็นธิดาของเฮนริคที่ 3 ดยุคแห่งบราบ็องต์กับอาเดอแลดแห่งบูร์กอญ[2]
พระราชประวัติ
สายตระกูล
มาเรียแห่งบราบ็องต์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1254 ในเลอเฟิน (ปัจจุบันอยู่ในประเทศเบลเยียม) บิดาของพระองค์คือเฮนริคที่ 3 ดยุคแห่งบราบ็องต์ที่ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1261 ซึ่งมาเรียยังเป็นเด็กอยู่ ส่วนมารดาของพระองค์คืออาเดอแลด บุตรสาวของอูกที่ 4 ดยุคแห่งบูร์กอญ อาเดอแลดมีน้องชาย คือ รอแบต์ที่ 2 ดยุคแห่งบูร์กอญที่ต่อมาสมรสกับแอนเญ็สแห่งฝรั่งเศส พระธิดาคนเล็กของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส และเป็นบิดาของมาร์เกอรีตแห่งบูร์กอญ อนาคตพระมเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 10 แห่งฝรั่งเศสและนาวาร์ที่ถูกจองจำในข้อหาคบชู้ในปี ค.ศ. 1314 กับฌานแห่งบูร์กอญ อนาคตพระมเหสีของพระเจ้าฟิลิปที่ 6 แห่งฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้มาเรียแห่งบราบ็องจึงเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่หนึ่งมาร์เกอรีตแห่งบูร์กอญ อนาคตพระมเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 10 แห่งฝรั่งเศสที่อ่อนวัยกว่าพระองค์มาก มาเรียยังเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่หนึ่งของบล็องช์แห่งอาร์ตัวส์ สมเด็จพระราชนีแห่งนาวาร์ซึ่งเป็นพระสัสสุของพระเจ้าฟิลิปที่ 4
มาเรียถูกตั้งชื่อตามย่าของพระองค์ คือ มาเรียแห่งโฮเฮินสเตาเปิน ดัชเชสแห่งบราบ็องต์ พระธิดาของพระเจ้าฟรีดริชแห่งสวาเบีย กษัตริย์แห่งเยอรมนี พระโอรสคนเล็กของจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
การอภิเษกสมรส
วันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1274 มาเรียแห่งบราบ็องต์อภิเษกสมรสกับพระเจ้าฟิลิปที่ 3 แห่งฝรั่งเศส[3] พระองค์เป็นพ่อม่ายที่มีพระโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่สามคนกับอิซาเบลแห่งอารากอน พระมเหสีคนแรก คือ หลุยส์, ฟิลิป และชาร์ลส์
มาเรียแห่งบราบ็องกับพระเจ้าฟิลิปที่ 3 แห่งฝรั่งเศสมีพระโอรสธิดาด้วยกันสามคน คือ
- หลุยส์แห่งเอฟโรซ์ (ค.ศ. 1276–1319)
- มาร์เกอรีตแห่งฝรั่งเศส (ค.ศ. 1278/79–1318[4]) พระมเหสีของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ
- บล็องช์ (ต้นคริสตทศวรรษ 1280–1305) พระมเหสีของพระเจ้ารูดอล์ฟที่ 1 แห่งโบฮีเมีย
ชีวิตในราชสำนัก
มาร์เกอรีตแห่งพรอว็องส์ พระมารดาของพระเจ้าฟิลิปที่ 3 และปิแอร์ เดอ ลา บรูส มหาดเล็กในห้องนอนของพระเจ้าฟิลิปที่ 3 มีอิทธิพลต่อพระองค์อย่างมาก การไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสทำให้มาเรียโดดเดี่ยวในราชสำนักฝรั่งเศส พระองค์ไม่เป็นที่นิยมแม้แต่น้อย
ปี ค.ศ. 1276 หลุยส์ พระโอรสเลี้ยงของมาเรียสิ้นพระชนม์อย่างน่าสงสัย มาเรียถูกสงสัยว่าเป็นคนสั่งให้วางยาพิษ[5] ปิแอร์ เดอ ลา บรูสก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเช่นกัน เขาถูกจองจำและถูกประหารในข้อหาฆาตกรรม มาร์เกอรีตสงสัยว่ามาเรียเป็นคนบงการฆ่าหลุยส์ พระเจ้าฟิลิปเองก็ดูจะเชื่อพระมารดามากกว่าพระมเหสี
ชีวิตหลังตกเป็นม่าย
มาเรียกลายเป็นม่ายในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1285 เมื่อพระเจ้าฟิลิปที่ 3 สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง 40 พรรษา พระเจ้าฟิลิปที่ 4 พระโอรสเลี้ยงวัย 17 พรรษาของพระองค์เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากพระบิดา
ปี ค.ศ. 1294 พระองค์ร่วมกับพระราชินีนาถฌานที่ 1 แห่งนาวาร์และบล็องช์แห่งอาร์ตัวส์ทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสกับเอ็ดมุนด์หลังกางเขน พระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ[6]
ปี ค.ศ. 1316 ทรงเกษียณตัวเข้าสู่อารามเลส์มิวโรซ์
การสิ้นพระชนม์
พระองค์มีพระชนมายุยืนกว่าพระเจ้าฟิลิปที่ 4, พระโอรสธิดาทั้งสามคนที่สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1305, ค.ศ. 1318 และค.ศ. 1319 และพระเจ้าหลุยส์ที่ 10 พระนัดดาเลี้ยง พระองค์สิ้นพระชนม์ในวัย 67 พรรษาในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1321 ซึ่งเป็นรัชสมัยของพระเจ้าฟิลิปที่ 5 พระนัดดาเลี้ยงคนที่สอง ในอารามเลส์มิวโรซ์ในโมล็อง ร่างของพระองค์ไม่ได้ถูกฝังในสุสานกษัตริย์ที่มหาวิหารแซ็งต์เดอนีส์ แต่ถูกฝังในคอนแวนต์กอร์เดอลิเยร์ในปารีสซึ่งถูกเปลวเพลิงทำลายในปี ค.ศ. 1580 โบสถ์ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในอีกหลายปีต่อมา
อ้างอิง
- Today in History OnThisDay - May 13th. 1254 - Marie of Brabant, Queen of France
- MARIE OF BRABANT, QUEEN OF FRANCE
- ↑ Viard, Jules Marie Édouard (1930). Grandes Chroniques de France. Librairie Ancienne Honoré Champion, p. 362 note3.
- ↑ Dunbabin, Jean (2011). The French in the Kingdom of Sicily, 1266–1305. Cambridge University Press, p. xiv.
- ↑ Bradbury, Jim (2007). The Capetians, Kings of France 987-1328. Hambledon Continuum, p. 238.
- ↑ Stanton, Anne Rudloff (2001). The Queen Mary Psalter: A Study of Affect and Audience. Volume 91 Part 6. American Philosophical Society, p. 219.
- ↑ Jordan, William Chester (2009). A Tale of Two Monasteries: Westminster and Saint-Denis in the Thirteenth Century. Princeton University Press, p. 141.
- ↑ Morris, Marc (2008). Edward I and the Forging of Britain. Windmill Books, p. 267-268.