ข้ามไปเนื้อหา

ชอพูร์ แบฆทียอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชอพูร์ แบฆทียอร์
นายกรัฐมนตรีอิหร่าน คนที่ 45
กษัตริย์พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี
ก่อนหน้าโกลอมเรซอ แอซฮอรี
ถัดไปเมฮ์ดี บอแซร์กอน (ในฐานะนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน)
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงแรงงาน
ดำรงตำแหน่ง
1 กรกฎาคม 1952 – 9 เมษายน 1953
รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย
ดำรงตำแหน่ง
13 มกราคม 1979 – 23 มกราคม 1979
แต่งตั้งโดยพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี
ก่อนหน้าแอบบอส แกเรบอฆี
ถัดไปแอฮ์แมด แซย์เอด แจวอดี
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด26 มิถุนายน ค.ศ. 1914(1914-06-26)
แชฮ์เรโคร์ด แชฮอร์แมฮอลและแบฆทียอรี รัฐเปอร์เซียอันประเสริฐ
เสียชีวิต6 สิงหาคม ค.ศ. 1991(1991-08-06) (77 ปี)
ซูว์แรน ฝรั่งเศส
ศาสนาอิสลาม
คู่สมรสมาดแลน แชฮีนทอจ

ชอพูร์ แบฆทียอร์ (เปอร์เซีย: شاپور بختیار) เป็นนักการเมืองชาวอิหร่าน เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายในรัชสมัยพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี[1] นอกจากนี้เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและสมาชิกสภาผู้สำเร็จราชการแห่งรัฐอีกด้วย ในคำพูดของนักประวัติศาสตร์อับบาส มิลานี : "มากกว่าหนึ่งครั้งในน้ำเสียงของเยเรมีย์เขาเตือนประเทศชาติถึงอันตรายของเผด็จการลัทธิอำนาจนิยมและว่าลัทธิฟาสซิสต์ของมุลละฮ์จะมืดมนกว่าคณะผู้ยึดอำนาจการปกครองใดๆ"[1]

นายกรัฐมนตรี

[แก้]

การประท้วงใหญ่เกิดขึ้นอีกที่เมืองมาชาดมีการลุกฮือเผาบ้านของชาวอเมริกัน ตลอดจนกิจการต่าง ๆ ของชาวตะวันตก[2] ทหารได้สกัดกั้นและทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายนับร้อย เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โตจนรัฐบาลอเมริกา และยุโรปสั่งให้คนของตนออกจากอิหร่าน[2] ความตึงเครียดที่กดดันทำให้ชาห์ทำตามคำแนะนำของอเมริกา โดยการเสด็จออกนอกประเทศพร้อมครอบครัว เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1979[2][3] โดยที่รัฐบาลของนายชาห์ปูร์ บัคเตียร์ ได้ออกประกาศว่า พระองค์มิได้สละบัลลังก์แต่อย่างใด[2] และแล้วในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โคมัยนีพร้อมผู้ช่วยราว 500 คน และนักหนังสือพิมพ์อีก 150 คน ได้โดยสารเครื่องบินโบอิ้ง 747 ของสายการบินฝรั่งเศสกลับสู่อิหร่าน โดยมีประชาชนต้อนรับอย่างเนืองแน่น แม้ระยะแรกกองทัพบกประกาศว่าพร้อมหลั่งเลือดเพื่อค้ำบัลลังก์ชาห์[2] หรือหนุนรัฐบาลนายบัคเตียร์ ภายหลังกองทัพบกได้วางตัวเป็นกลาง[2] ประชาชนฝ่ายโคมัยนีจึงได้เข้าควบคุมเตหะรานไว้ได้โดยบุกยึดที่ทำการรัฐบาล กระทรวงทบวงกรม ตึกรัฐสภา และสถานีตำรวจไว้ได้หมด[2]

ต่อมารัฐบาลที่ได้รับการแต่งตั้งจากโคมัยนีก็เข้ารับหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ภายในประเทศ และนำอิหร่านเข้าสู่การปกครองของรัฐอิสลามตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา[4] โดยมีผู้นำสูงสุดคือ อิหม่ามโคมัยนี เรียกว่า ฟากิฮ์ หรือ รอฮ์บัรร์ ถือเป็นผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณมีอำนาจครอบคลุมทั้งการเมืองและการปกครองทั้งหมด[4]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 Milani, Abbas (2008). Eminent Persians: The Men and Women Who Made Modern Iran, 1941–1979. Syracuse University Press and Persian World Press. p. 109. ISBN 978-0815609070.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 จักรพันธุ์ กังวาฬ และคนอื่นๆ. หน้า 22
  3. "อิหร่าน (๓)". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-26. สืบค้นเมื่อ 2009-10-26.
  4. 4.0 4.1 จักรพันธุ์ กังวาฬ และคนอื่นๆ. หน้า 23