ดาร์ธ มอล
ดาร์ธ มอล | |
---|---|
ตัวละครใน สตาร์ วอร์ส | |
เรย์ พาร์ค เป็น มอล ในภาพยนตร์ ฮาน โซโล (ค.ศ. 2018) | |
ปรากฏครั้งแรก | ภัยซ่อนเร้น (ค.ศ. 1999) |
สร้างโดย | จอร์จ ลูคัส |
แสดงโดย | เรย์ พาร์ค |
ให้เสียงโดย | |
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง | |
ชื่อเต็ม | มอล |
เผ่าพันธุ์ | ดาโธเมียนซาบราก |
เพศ | ชาย |
ตำแหน่ง | ดาร์ธ มอล |
อาชีพ |
|
สังกัด |
|
อาวุธ | กระบี่แสงสองใบดาบ
|
ครอบครัว |
|
อาจารย์ | ดาร์ธ ซิเดียส |
ลูกศิษย์ |
|
ดาวบ้านเกิด | ดาโธเมียร์[1] |
เกิด | ปีที่ 54 ก่อนยุทธการยาวิน |
ตาย | ปีที่ 2 ก่อนยุทธการยาวิน ทาทูอิน |
ส่วนสูง | 1.75 เมตร |
ดาร์ธ มอล (อังกฤษ: Darth Maul) หรือที่รู้จักในภายหลังว่า มอล (อังกฤษ: Maul) เป็นตัวละครสมมติในมหากาพย์ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ สตาร์ วอร์ส เขาปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ปี ค.ศ. 1999 สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1 ภัยซ่อนเร้น (แสดงโดยเรย์ พาร์ค และให้เสียงโดยปีเตอร์ เซราฟีโนวิกซ์) ในฐานะซิธลอร์ดที่ทรงพลังและเป็นลูกศิษย์คนแรกของดาร์ธ ซีเดียส ถึงแม้จะดูเหมือนว่าดาร์ธ มอลนั้นถูกฆ่าโดยโอบีวัน เคโนบี ในตอนจบของภาพยนตร์ เขากลับมาในแอนิเมชันชุดปี ค.ศ. 2008 สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส (ให้เสียงโดยแซม วิทเวอร์) จอร์จ ลูคัสซึ่งเป็นผู้สร้าง สตาร์ วอร์ส กล่าวว่าเขาตั้งใจที่จะฟื้นคืนชีพมอลเพื่อให้เป็นตัวร้ายหลักในภาพยนตร์ไตรภาคต่อ แต่แผนนั้นก็ถูกทิ้งไปเมื่อดิสนีย์เข้าซื้อกิจการของลูคัสฟิล์มในปี ค.ศ. 2012 แต่กระนั้น ตัวละครนี้ได้กลับมาปรากฏตัวในแอนิเมชันชุดปี ค.ศ. 2014 สตาร์ วอร์ส เรเบลส์ และภาพยนตร์ปี ค.ศ. 2018 ฮาน โซโล: ตำนานสตาร์ วอร์ส ซึ่งวิทเวอร์ได้กลับมาพากย์เสียงให้มอลและพาร์คได้กลับมารับบทเป็นตัวละครคนแสดง หลังจากการพ่ายแพ้ของเขาใน ภัยซ่อนเร้น มอลกลายเป็นนักบงการอาชญากรรมอิสระและมองโอบีวันเป็นศัตรูตัวฉกาจ
ดาร์ธ มอล เป็นนักรบซิธเผ่าพันธุ์ซาบรากจากดาวดาโธเมียร์ ซึ่งถูกลักพาตัวมาโดยซิเดียส และถูกฝึกสอนในวิถีแห่งด้านมืดของพลัง ด้วยความที่เขาเติบโตมาภายใต้การสั่งสอนของดาร์ธ ซิเดียส ทำให้ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวที่มอลได้เรียนรู้ก็คือความกระหายเลือดและความโกรธเกรี้ยว
มอลเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์การต่อสู้ด้วยกระบี่แสงแบบจูโยและจาร์ไค รวมไปถึงศิลปะป้องกันตัวเทราส คาซี และเลือกที่จะใช้กระบี่แสงสองปลายในการต่อสู้ ในช่วงปีก่อนจะถึงการรุกรานนาบูนั้นซิเดียสได้ส่งมอลออกไปในภารกิจลอบสังหารบุคคลทางการเมืองหลายภารกิจ ที่น่าจดจำที่สุดคือการลอบสังหารสมาชิกกลุ่มองค์กรสุริยะทมิฬ แต่มอลก็ยังปรารถนาที่จะได้ต่อกรกับเจได
ในปีที่ 32 ก่อนยุทธการยาวิน เขาฆ่าปรมาจารย์เจได ไควกอน จินน์ ในระหว่างยุทธการนาบู ก่อนที่เขาจะถูกหั่นครึ่งโดยโอบีวันซึ่งเป็นลูกศิษย์ของไควกอน ด้วยความแค้น มอลจึงสามารถเอาชีวิตรอดมาได้และกลายเป็นบ้านับทศวรรษ จนกระทั่งน้องชายของเขา ซาเวจ โอเพรส มาพบเขาในช่วงสงครามโคลน เมื่อจิตและกายของเขานั้นถูกคืนกลับมาด้วยไสยศาสตร์และไซเบอร์เนทิกส์โดยไนท์ซิสเตอร์ มาเธอร์ทัลซิน มอลได้หมกมุ่นกับความต้องการที่จะล้างแค้นโอบีวัน เขารวมกลุ่มอาชญากรรมต่าง ๆ ภายใต้การนำของเขา จัดฉากการยึดครองดาวแมนดาลอร์ และสังหารคนรักของโอบีวัน ดัสเชสซาทีน ครีซ มอลถูกจับตัวไปโดยซิเดียสหลังจากที่เขากลายเป็นภัย แต่ก็สามารถหนีออกมาได้ก่อนที่สาธารณรัฐนั้นจะถูกแทนที่โดยจักรวรรดิกาแลกติก เขากลับมาใช้ตำแหน่งของซิธ "ดาร์ธ" สร้างองค์กรอาชญากรรมของเขาขึ้นใหม่ และชักนำให้เอซรา บริดเจอร์ช่วยเขาในการตามหาโอบีวันบนดาวทาทูอีน ซึ่งคู่ปรับทั้งสองได้เผชิญหน้ากันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะจบลงด้วยการตายของมอล
ในตอนหลัง ผู้ทำนายแห่งด้านมืด ก็ได้โคลนดาร์ธ มอลขึ้นมาเนื่องจากเชื่อว่า ดาร์ธ เวเดอร์ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้รับใช้ของซีเดียส และได้สู้กัน แต่ในท้ายที่สุด เวเดอร์ก็ชนะโคลนซิธลอร์ดคนนี้ซึ่งเรียกว่า ดอพเพลงการ์ และสังหารเขาได้ในที่สุด
นอกจากในภาพยนตร์และแอนิเมชันชุดทางโทรทัศน์แล้ว ตัวละครนี้ได้ปรากฏตัวในสื่อรูปแบบต่าง ๆ ในจักรวาลขยายของสตาร์ วอร์ส ประกอบด้วยนวนิยาย หนังสือการ์ตูน และวิดีโอเกม ถึงแม้ว่าเขาจะปรากฎตัวไม่นานใน ภัยซ่อนเร้น ดาร์ธ มอลได้กลายเป็นตัวละครโปรดของแฟน ๆ ในแฟรนไชส์ และกลายเป็นตัวร้ายที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวัฒนธรรมประชานิยมด้วยลักษณะและกระบี่แสงสองใบดาบของเขาที่น่าเกรงขาม การกลับมาของเขาและการพัฒนาตัวละครเพิ่มเติมใน เดอะ โคลน วอร์ส ทำให้ความโด่งดังของเขาภายในแฟนดอมของ สตาร์ วอร์ส นั้นเพิ่มขึ้นอีก และเขายังมีผู้ติดตามในรูปแบบของลัทธิอีกด้วย
ลักษณะเฉพาะ
[แก้]แนวคิดและการสร้าง
[แก้]หลังจากที่หงุดหงิดจากภาพวาดโดยเกวิน บอกเคต ซึ่งเป็นนักออกแบบงานสร้างของ ภัยซ่อนเร้น เอียน แม็คเคกซึ่งเป็นนักออกแบบแนวคิดจึงเริ่มที่จะปิดภาพนั้นโดยเทป ทั้งเขาและผู้กำกับ จอร์จ ลูคัส ชอบผลที่ออกมา โดยเรียกว่าเป็น "แนว ๆ แบบทดสอบรอร์ชัค" ภาพวาดสุดท้ายนั้นมีใบหน้าของแม็คเคก โดยเอาผิวหนังทั้งหมดออกไป และมีการทดลองรอร์ชัค (หยดหมึกลงไปบนกระดาษ พับครึ่ง แล้วเปิดออกมา)[2] รอยสักบนหน้าของมอลนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากชนเผ่าพื้นเมืองของบราซิล[3] ในตอนที่งานออกแบบศิลปะของเขานั้นเสร็จสิ้น มอลนั้นถูกเรียกว่าเป็นเหมือนสิ่งที่หลุดมาจากฝันร้าย
โดยแรกเดิมนั้น หัวของมอลจะมีขนนก โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากโทเทม แต่ทีมงานของครีเอเตอร์เอฟเฟ็กส์ที่นำโดยนิก ดัดแมนนั้นเข้าใจว่าขนเหล่านั้นคือเขา และดัดแปลงลักษณะของมอลให้กลายเป็นรูปแบบที่พบเห็นได้โดยทั่วไปของมาร[4]
นอกจากนี้ เครื่องแต่งกายของเขาก็ยังถูกดัดแปลง จากที่เป็นชุดรัดรูปและมีลวดลายของกล้ามเนื้อ กลายเป็นชุดคลุมของซิธซึ่งมีต้นแบบมาจากกางเกงจีบของซามูไร ด้วยเหตุที่ว่าการต่อสู้ด้วยกระบี่แสงนั้นต้องมีการกระโดด การหมุน การวิ่ง และการกลิ้ง[5] อีกแนวคิดหนึ่งนั้นคือการให้มอลเป็นตัวละครที่สวมหน้ากาก ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเทียบเคียงกับดาร์ธ เวเดอร์ได้ ในขณะที่ตัวละครต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับวุฒิสภานั้นจะมีการระบายและรอยสักบนหน้า แต่สุดท้ายนั้นก็มีตัดสินใจที่จะนำรูปแบบการระบายและรอยสักบนหน้ามาใช้กับมอลแทนสมาชิกวุฒิสภา[5]
จอร์จ ลูคัสตัดสินใจที่จะฟื้นคืนชีพดาร์ธ มอล ใน เดอะ โคลน วอร์ส หลังจากที่พัฒนาตัวละครซาเวจ โอเพรส[6] ในตอนแรกนั้น เดฟ ฟิโลนีซึ่งเป็นผู้ร่วมสร้างแอนิเมชันชุดนี้ได้ตอบกลับแนวคิดของลูคัสว่าไม่สมจริง เพราะ "มันจบแล้ว เขาถูกหั่นครึ่ง มันจะเป็นไปได้อย่างไร?" ตามที่ฟิโลนีเล่านั้น ลูคัสตอบว่า "ผมไม่รู้ ลองหาทางออกดู"[7]
การแสดง
[แก้]นักแสดงและนักศิลปะป้องกันตัว เรย์ พาร์ค แสดงเป็น ดาร์ธ มอล ใน สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1 ภัยซ่อนเร้น และ ฮาน โซโล: ตำนานสตาร์ วอร์ส[8] ปีเตอร์ เซราฟีโนวิกซ์ให้เสียงสำหรับตัวละครนี้ใน ภัยซ่อนเร้น แซม วิทเวอร์นั้นแทนที่เซราฟีโนวิกซ์ในตอนที่ตัวละครนี้กลับมาใน สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส และกลับมารับบทในโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ที่ตามมาในภายหลัง โดยโดดเด่นที่สุดใน สตาร์ วอร์ส เรเบลส์ และ ฮาน โซโล[8][9] นอกจากนี้ เกร็ก เบอร์เกอร์, คลินท์ บาจาเคียน, เจสส์ ฮาร์เนลล์, สตีเฟน สแตนตัน และลี ทอกคาร์ยังให้เสียงมอลในการปรากฏตัวอื่น ๆ ที่ไม่ได้โดดเด่นมากเท่าไหร่
กระบี่แสง
[แก้]ดาร์ธ มอลนั้นเป็นที่รู้จักจากการที่เขาใช้กระบี่แสงสองใบดาบ โดยท่าที่เขาถือนั้นคล้ายการถือไม้โบ (อังกฤษ: Bō) หรือคฑา[10] ใน สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1 ภัยซ่อนเร้น อุปกรณ์ประกอบฉากสำหรับกระบี่แสงของเขานั้นทำมาจากเรซินที่หุ้มแท่งโลหะซึ่งเป็นที่ติดใบดาบสำหรับการต่อสู้[11]
เหตุการณ์
[แก้]ไม่เพียงเท่านั้น ในหนังแอนิแมชั่น Star Wars : Clone Wars และ Rebels ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นเนื้อหาอย่างเป็นทางการได้บอกว่า แท้ที่จริงแล้วดาร์ธ มอลนั้นยังไม่ตายเพราะเขาถูกโอบีวันฟันกระบี่แสงไปที่เอวจนทำให้ร่างกายขาดเป็นสองท่อนและตกลงไปในช่องระบายอากาศบนดาวนาบู ต่อมาก็ทำการหลบหนีไปยัง โลธอล ไมเนอร์
ในช่วงปีที่ 2 ก่อนยุทธการยาวิน มอลได้เดินทางไปที่ดาวทาทูอิน จากการนำทางของโฮโลครอน ได้พบกับเบน(โอบีวัน)เคโนบีที่ช่วยหลือเอซรา บริดเจอร์ มอลและเบนก็ได้ต่อสู้ 3 กระบวนท่า มอลพลาดท่า จึงถูกฟันที่กลางร่าง ก่อนตายมอลได้สั่งเสียโอบีวันว่า "เขาคือผู้ที่ถูกเลือก เขาจะแก้แค้นให้เรา" ก่อนสิ้นลม
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ ภัยซ่อนเร้น และ เลโก้ สตาร์ วอร์ส
- ↑ เดอะ โคลน วอร์ส, เลโก้: ดิเอมไพร์สไตรก์เอ้าท์, ดิสนีย์ อินฟินิตี้ 3.0, เรเบลส์, แบตเทิลฟรอนต์ 2, ฮาน โซโล, และ เลโก้: เดอะ สกายวอล์คเกอร์ ซากะ
- ↑ ภัยซ่อนเร้น: เดอะวิดีโอเกม
- ↑ ซุปเปอร์บอมแบดเรซซิง
- ↑ เรซเซอร์รีเวนจ์
- ↑ แบตเทิลฟรอนต์ 2
- ↑ เลโก้: ดรอยด์เทลส์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Maul, Darth". Star Wars Databank. Lucasfilm. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 23, 2011. สืบค้นเมื่อ September 24, 2011.
- ↑ "Designing a Sith Lord". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 7, 2015. สืบค้นเมื่อ February 6, 2015.
- ↑ Cotta Vaz, Mark (July 1999). "Phantom Visions". Cinefex (78): 39–68.
- ↑ Moyers, Bill (April 26, 1999). "Of Myth And Men". Time. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 23, 2006. สืบค้นเมื่อ April 20, 2009.
- ↑ 5.0 5.1 Designing a Sith Lord เก็บถาวร มิถุนายน 11, 2008 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Blauvelt, Christian (October 12, 2011). "Darth Maul Lives! 'Star Wars: The Clone Wars' shows his life after vivisection". EW.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 20, 2020. สืบค้นเมื่อ May 6, 2020.
- ↑ Greenberg, Glenn (2019). Star Wars: Age of Republic – Villains. New York: Marvel Comics. p. 26. ISBN 978-1-302-91729-6. OCLC 1090442735.
- ↑ 8.0 8.1 Wetmore, Kevin J. Jr. (August 10, 2017). The Empire Triumphant: Race, Religion and Rebellion in the Star Wars Films. McFarland & Company. p. 127. ISBN 9781476611716.
- ↑ "The Solo: A Star Wars Story Ending Explained". GamesRadar. May 17, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 14, 2020. สืบค้นเมื่อ May 19, 2018.
- ↑ Star Wars Episode I: The Phantom Menace - Trailer (ภาษาอังกฤษ), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 10, 2022, สืบค้นเมื่อ April 11, 2022
- ↑ Sherwood, Seth (July 1, 2018). "The Lightsaber Prop Guidebook" (PDF). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ March 30, 2022. สืบค้นเมื่อ April 11, 2022.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- มอล ในฐานข้อมูล StarWars.com
- มอล ใน วูกีพีเดีย วิกิของ สตาร์ วอร์ส
- มอล ที่ อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส