ปักษาสวรรค์
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
Strelitzia | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Liliopsida |
ชั้นย่อย: | Zingiberidae |
อันดับ: | Zingiberales |
วงศ์: | Strelitziaceae |
สกุล: | Strelitzia Ait. |
สปีชีส์ | |
|
ปักษาสวรรค์ หรือ เบิร์ดออฟพาราไดส์ (อังกฤษ: Bird of paradise) เป็นพืชดอก มีลำต้นทั้งที่เป็นลำต้นเดี่ยว และออกเป็นกอ มี 2 ลักษณะ คือ มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้า และชนิดที่มีลำต้นเหนือดินเห็นชัดเจน มีลักษณะลำต้น ใบ และดอกคล้ายเฮลิโคเนีย แต่ไม่ได้อยู่วงเฮลิโคเนียแต่อย่างใด ซึ่งปักษาสวรรค์อยู่วงศ์ Strelitziaceae ส่วนเฮลิโคเนียอยู่วงศ์ Heliconiaceae
ปักษาสวรรค์อยู่ในสกุล Strelitzia ซึ่งถูกตั้งชื่อโดยโจเซฟ แบงค์ เพื่อถวายพระเกียรติแก่สมเด็จพระราชินีชาร์ลอตต์ พระอัครมเหสีของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเสด็จพระราชสมภพเป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เมคเลินบวร์ค-ชเตรลิทซ์
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
[แก้]ปักษาสวรรค์มีใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอกแกมขอบขนาน คล้ายใบกล้วย ปลายใบแหลม โคนมนถึงสอบ ขอบเรียบกว้าง 10 - 15 ซม. ยาว 30 - 60 ซม. ก้านใบยาว 30 - 60 ซม. บริเวณช่วงต่อกับแผ่นใบกลมมน โคนก้านใบแผ่แบนเป็นกาบโอบรอบต้น
จะเริ่มให้ดอกเมื่ออายุ 3 - 6 ปี ดอกมีรูปทรงคล้ายนกที่กำลังกางปีก อาจจะออกเป็นดอกเดี่ยว หรือเป็นช่อประมาณ 3 -7 ดอก ออกจากโคนกาบใบ ก้านช่อดอกกลม มีกาบรองดอกรูปเรือรองรับดอกย่อย แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบเลี้ยงรูปหอกแคบยาว 3 กลีบ และกลีบดอกรูปหัวลูกศร 2 กลีบ ส่วนปลายกลีบห่อติดกัน มีเกสรเพศผู้และเพศเมียอยู่ภายใน ตอนปลายสุดของหัวลูกศรมียอดเกสรเพศเมียสีน้ำตาลยื่นออกมา เมื่อดอกบานเต็มที่มีความยาว 8 - 12 ซม. ทยอยบานจากโคนช่อไปปลายช่อ ผลมีรูปรี จะแห้งและแตก ภายในมีเมล็ด 3 เมล็ด รูปกลม มีเปลือกหนาสีดำ
การปลูกเลี้ยง
[แก้]ดินที่เหมาะสมในการปลูกคือดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ควรปลูกกลางแจ้งให้ได้รับแสงแดดเต็มที่ รดน้ำในปริมาณที่พอเหมาะไม่แฉะจนเกินไป ควรรดวันละครั้งในช่วงเช้า การขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือแยกหน่อหรือกอ
อ้างอิง
[แก้]- ปักษาสวรรค์จากโรงเรียนวัฒโนพายัพ เก็บถาวร 2008-05-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน