วัยหมดประจำเดือน
วัยหมดประจำเดือน | |
---|---|
ชื่ออื่น | วัยหมดระดู, วัยทอง |
สาขาวิชา | นรีเวชวิทยา |
อาการ | No menstrual periods for a year[1] |
การตั้งต้น | อายุ 49-52 ปี[2] |
สาเหตุ | Usually a natural change, surgery that removes both ovaries, some types of chemotherapy[3][4] |
การรักษา | None, lifestyle changes[5] |
ยา | Menopausal hormone therapy, clonidine, gabapentin, selective serotonin reuptake inhibitors[5][6] |
วัยหมดประจำเดือน คือช่วงเวลาที่ผู้ที่เคยมีประจำเดือนจะไม่มีรอบประจำเดือนและไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก[1][7] ส่วนใหญ่มักเริ่มต้นที่อายุ 49-52 ปี[2] บุคลากรทางการแพทย์มักนิยามวัยหมดประจำเดือนว่าเริ่มต้นเมื่อผู้ที่เคยมีประจำเดือนเริ่มไม่มีประจำเดือนต่อเนื่องกันมากกว่า 1 ปี[3] นอกจากนี้ยังอาจนิยามโดยพิจารณาจากปริมาณฮอร์โมนที่ผลิตจากรังไข่ได้อีกด้วย[8] ในผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเอามดลูกออกแต่ยังเก็บรังไข่ไว้ อาจนับวัยหมดประจำเดือนว่าเริ่มตั้งแต่วันผ่าตัดหรือนับตั้งแต่วันที่ระดับฮอร์โมนเริ่มลดลงก็ได้[8] ผู้ที่ผ่าตัดเอามดลูกออกแล้วมักเริ่มมีอาการของวัยหมดประจำเดือนเร็วกว่าปกติ คือเริ่มที่อายุประมาณ 45 ปี[9]
เมื่อใกล้ถึงวัยหมดประจำเดือน รอบประจำเดือนมักเริ่มมาไม่สม่ำเสมอ[10][11] โดยแต่ละรอบอาจจะกินเวลานานกว่าหรือสั้นกว่าปกติ และอาจมีเลือดออกมากกว่าหรือน้อยกว่าปกติ[10] ในช่วงนี้มักมีอาการร้อนวูบวาบ กินเวลาตั้งแต่ 30 วินาทีไปจนถึงประมาณ 10 นาที อาจมีอาการเหงื่อออก ตัวสั่น ผิวแดง ร่วมด้วย[10] อาการเหล่านี้มักเป็นอยู่ประมาณ 1-2 ปี[7] อาการอื่นที่อาจพบร่วมด้วยได้แก่ ช่องคลอดแห้ง นอนหลับยาก และอารมณ์แปรปรวน[10] โดยมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไปในแต่ละคน[7] ก่อนหน้านี้เคยเชื่อกันว่าการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของการเกิดโรคหัวใจ แต่ต่อมาพบว่าน่าจะเป็นความสัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้นโดยไม่เกี่ยวกับการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน[7] ในคนที่มีปัญหาสุขภาพบางชนิด เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือปวดประจำเดือน อาการเหล่านี้อาจดีขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน[7]
โดยทั่วไปแล้วการเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนมักเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ[4] บางรายอาจเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเร็วกว่าปกติจากการสูบบุหรี่[3][12] สาเหตุอื่นๆ เช่น การผ่าตัดเอารังไข่ออกทั้งสองข้าง และการใช้ยาเคมีบำบัด[3] ในระดับสรีรวิทยาแล้วการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนจะเริ่มต้นเมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่ผลิตจากรังไข่เริ่มลดลง[1] แพทย์สามารถตรวจวัดระดับฮอร์โมนเหล่านี้ได้จากเลือดหรือจากปัสสาวะ แต่ขั้นตอนนี้ไม่ใช่ขั้นตอนจำเป็นในการวินิจฉัยภาวะหมดประจำเดือน[13]
โดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องมีการรักษาสำหรับการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน[5] อย่างไรก็ดีอาการบางอย่างของภาวะนี้สามารถรักษาได้[5] เช่น อาการร้อนวูบวาบดีขึ้นได้ด้วยการงดสูบบุหรี่ งดกาแฟ และแอลกอฮอล์ เป็นต้น[5] การนอนในห้องนอนที่มีอากาศเย็นและการใช้พัดลมก็ช่วยได้เช่นกัน[5] ยาที่มีที่ใช้ในการรักษาอาการของวัยหมดประจำเดือนมีหลายชนิด เช่น ฮอร์โมนทดแทนสำหรับวัยหมดประจำเดือน โคลนิดีน กาบาเพนติน และ เอสเอสอาร์ไอ เป็นต้น[5][6] การออกกำลังกายช่วยแก้ไขปัญหาการนอนหลับได้[5] ก่อนหน้านี้มีการใช้ฮอร์โมนทดแทนกันอย่างแพร่หลาย แต่ปัจจุบันแนะนำให้ใช้เฉพาะในรายที่มีอาการมาก เนื่องจากมีข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง[5] การรักษาทางเลือกเพื่อบรรเทาอาการจากวัยหมดประจำเดือนยังไม่มีหลักฐานคุณภาพสูงเพียงพอที่จะแนะนำให้ใช้โดยทั่วไป[7] แต่มีหลักฐานบางส่วนบ่งชี้ว่าอาจใช้ไฟโตเอสโตรเจนช่วยได้[14]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 "Menopause: Overview". Eunice Kennedy Shriver National Institute of Child Health and Human Development. 28 มิถุนายน 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 เมษายน 2015. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2015.
- ↑ 2.0 2.1 Takahashi TA, Johnson KM (May 2015). "Menopause". The Medical Clinics of North America. 99 (3): 521–34. doi:10.1016/j.mcna.2015.01.006. PMID 25841598.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 "What is menopause?". Eunice Kennedy Shriver National Institute of Child Health and Human Development. 28 มิถุนายน 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 มีนาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2015.
- ↑ 4.0 4.1 "What causes menopause?". Eunice Kennedy Shriver National Institute of Child Health and Human Development. 6 พฤษภาคม 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 เมษายน 2015. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2015.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 5.6 5.7 5.8 "What are the treatments for other symptoms of menopause?". Eunice Kennedy Shriver National Institute of Child Health and Human Development. 28 มิถุนายน 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 มีนาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2015.
- ↑ 6.0 6.1 Krause MS, Nakajima ST (March 2015). "Hormonal and nonhormonal treatment of vasomotor symptoms". Obstetrics and Gynecology Clinics of North America. 42 (1): 163–79. doi:10.1016/j.ogc.2014.09.008. PMID 25681847.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 "Menopause: Overview". PubMedHealth. 29 สิงหาคม 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 กันยายน 2017. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2015.
- ↑ 8.0 8.1 Sievert, Lynnette Leidy (2006). Menopause : a biocultural perspective ([Online-Ausg.] ed.). New Brunswick, N.J.: Rutgers University Press. p. 81. ISBN 9780813538563. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 กันยายน 2017.
- ↑ International position paper on women's health and menopause : a comprehensive approach. DIANE Publishing. 2002. p. 36. ISBN 9781428905214. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 กันยายน 2017.
- ↑ 10.0 10.1 10.2 10.3 "What are the symptoms of menopause?". Eunice Kennedy Shriver National Institute of Child Health and Human Development. 6 พฤษภาคม 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 มีนาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2015.
- ↑ "What Is Menopause?". National Institute on Aging. สืบค้นเมื่อ 2018-10-06.
- ↑ Warren, volume editors, Claudio N. Soares, Michelle (2009). The menopausal transition : interface between gynecology and psychiatry ([Online-Ausg.] ed.). Basel: Karger. p. 73. ISBN 978-3805591010.
{{cite book}}
:|first1=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ "How do health care providers diagnose menopause?". Eunice Kennedy Shriver National Institute of Child Health and Human Development. 6 พฤษภาคม 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 เมษายน 2015. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2015.
- ↑ Franco OH, Chowdhury R, Troup J, Voortman T, Kunutsor S, Kavousi M, Oliver-Williams C, Muka T (June 2016). "Use of Plant-Based Therapies and Menopausal Symptoms: A Systematic Review and Meta-analysis". JAMA. 315 (23): 2554–63. doi:10.1001/jama.2016.8012. PMID 27327802.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]การจำแนกโรค | |
---|---|
ทรัพยากรภายนอก |