ภาษาคาไรม์
ภาษาคาไรม์ (Karaim language) เป็นภาษากลุ่มเตอร์กิกที่ได้รับอิทธิพลจากภาษาฮีบรูในทำนองเดียวกับภาษายิดดิชหรือภาษาลาดิโน พูดโดยชาวคาไรต์ในไครเมียซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่นับถือศาสนายูดายในไครเมีย ลิธัวเนีย โปแลนด์และยูเครนตะวันตกเหลือผู้พูดอยู่เพียง 6 คน ภาษาคาไรม์สำเนียงลิธัวเนียเคยใช้พูดในกลุ่มชุมชนขนาดเล็กบริเวณเมืองตราไก ชาวคาไรต์เหล่านี้ถูกซื้อมาโดยแกรนด์ดุ๊กเวียเตาตัสแห่งลิธัวเนียเมื่อราว พ.ศ. 1944 - 1945 ซึ่งเป็นโอกาสให้ภาษานี้เหลือรอดอยู่ในตราไก ซึ่งเป็นผลมาจากการสนับสนุนของทางราชการ ในปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์ในตราไกแสดงเกี่ยวกับชุมชนคาไรต์และร้านอาหารคาไรต์
ภาษาคาไรม์ | |
---|---|
къарай тили, karaj tili, Karay dili | |
ประเทศที่มีการพูด | ไครเมีย, ลิทัวเนีย, โปแลนด์ |
จำนวนผู้พูด | น้อยกว่า 50 คนในลิธัวเนีย[1] (ไม่พบวันที่) |
ตระกูลภาษา | อัลไต?
|
รหัสภาษา | |
ISO 639-2 | tut |
ISO 639-3 | kdr |
ประวัติ
จุดกำเนิดของชาวคาไรต์ที่นับถือศาสนายูดาย
ศาสนายูดายของชาวคาไรต์ต่างจากศาสนายูดายของชาวยิว เพราะไม่ได้ใช้คัมภีร์มิซนะห์และทัลมุด คำว่าคาไรม์มาจากศัพท์ภาษาฮีบรู קרא แปลว่าอ่าน ส่วนคำว่าคาไรต์มาจากภาษากลุ่มเตอร์กิก หมายถึงกลับ
ก่อนที่ศาสนาอิสลามจะแพร่หลายเข้ามา ชุมชนชาวยิวอยู่แยกจากกันเนื่องจากการเมือง สภาพภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม แต่เมื่อศาสนาอิสลามแพร่เข้ามา ชาวยิวส่วนใหญ่รวมเป็นกลุ่มก้อนภายใต้การปกครองชองชาวมุสลิม ชุมชนชาวยิวเหล่านี้เป็นชุมชนที่แข็งแกร่ง พยายามตั้งกฎของตนเอง กฎของมุสลิมไม่ได้มีผลต่อกิจกรรมทางศาสนาแต่มีผลต่อสังคม ทำให้เปลี่ยนมาใช้ภาษาอาหรับและรับวัฒนธรรมอิสลามทางด้านอาหาร การแต่งกายและการติดต่อทางสังคม ภายในสังคมของชาวยิวเอง แรบไบต่างๆพยายามโน้มน้าวให้ชาวยิวยอมรับทัลมุดเป็นกฎของสังคม ในขณะที่ชาวยิวบางส่วนไม่ยอมรับ จึงเกิดความหลากหลายภายในศาสนายูดายขึ้น ศาสนายูดายของชาวคาไรต์เริ่มต้นในเมโสโปเตเมียเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 13 -14
ชาวคาไรต์ในไครเมียและลิธัวเนีย
จุดกำเนิดของชาวคาไรต์ที่มาอยู่ในไครเมียยังไม่แน่นอน เพราะขาดหลักฐานที่แน่ชัด เอกสารส่วนใหญ่ระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างชาวคาไรต์กับชุมชนอื่นระหว่างพุทธศตวรรษที่ 22-24 เอกสารส่วนใหญ่ระบุถึงชุมชนชาวคาไรต์ที่ถูกเผาเมื่อพ.ศ. 2279 ระหว่างที่รัสเซียรุกรานรัฐข่านตาตาร์[2] นักวิชาการบางส่วนเสนอว่าชาวคาไรต์เป็นลูกหลานของพ่อค้าที่เข้ามาในไครเมียตั้งแต่สมัยจักรวรรดิไบแซนไทน์[3]และได้พัฒนาภาษาของตนที่เป็นภาษากลุ่มเตอร์กิกในช่วงที่อยู่ในไครเมียนี้เองมีเอกสารเกี่ยวกับการอพยพของชาวคาไรต์จากอิสตันบูลไปยังไครเมียซึ่งบันทึกโดยชาวยิวในอิสตันบูลเมื่อ พ.ศ. 1746[4] การก่อตั้งชุมชนพ่อค้าในไครเมียน่าจะเริ่มต้นขึ้นระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18-19โดยกลุ่มพ่อค้าที่ติดต่อระหว่างไครเมีย เอเชียกลางและจีน[5]
ในอีกทางหนึ่งมีทฤษฎีว่าชาวคาไรต์ในไครเมียเป็นลูกหลานของเผ่าคาซาร์ที่เปลี่ยนมาใช้ภาษาคาไรม์ สมมติฐานที่สามกล่าวว่า ชาวคาไรต์เป็นลูกหลานของเผ่าอิสราเอลจากยุคแรกของการอพยพหลบหนีกษัตริย์อัสซีเรีย โดยเป็นเผ่าที่อพยพไปสู่เทือกเขาคอเคซัสเหนือแล้วจึงเข้าสู่คาบสมุทรไครเมีย
จุดกำเนิดของชาวคาไรต์ในลิธัวเนียมีความชัดเจนกว่า โดยกลุ่มชนนี้มาจากไครเมีย ใน พ.ศ. 1935 แกรนด์ดุ๊กเวียตาตุสแห่งลิทัวเนียปราบชาวตาตาร์ไครเมียได้ และอพยพชาวคาไรต์ในไครเมีย 330 ครอบครัวไปสู่ลิทัวเนีย ชาวคาไรต์ในลิทัวเนียแยกกันอยู่อย่างเป็นอิสระ และรักษาลักษณะเฉพาะของตนไว้ได้ โดยยังคงใช้ภาษากลุ่มเตอร์กิก แทนที่จะใช้ภาษาท้องถิ่นอื่นๆในบริเวณนั้น
การจัดจำแนก
ภาษาคาไรม์เป็นสมาชิกของตระกูลภาษาอัลไตอิกซึ่งเป็นภาษาที่แพร่หลายในหมู่ชาวนอร์มานในยูเรเชีย ภายในตระกูลภาษานี้ ภาษาคาไรม์จัดอยู่ในภาษษกลุ่มเคียปชาก ซึ่งเป็นสาขาตะวันตกของภาษากลุ่มเตอร์กิก ภายในกลุ่มตะวันตก ภาษาคาไรม์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มปอนโต-บัลการ์ในรัสเซียและภาษาคาลมึกซ์ในรัสเซีย ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างภาษาคาไรม์กับภาษาเคียปชากและภาษาตาตาร์ไครเมีย จึงมีทฤษฎีหนึ่งอธิบายว่าชาวคาซาร์เปลี่ยนไปเป็นชาวคาไรต์ที่นับถือศาสนายูดายในพุทธศตวรรษที่ 13-14
ลักษณะทั่วไปของภาษาในตระกูลอัลไตอิกคือเรียงประโยคแบบประธาน-กรรม-กริยา รูปคำติดต่อ และมีการเปลี่ยนเสียงสระ ภาษาคาไรต์มีลักษณะรูปคำติดต่อและมีการเปลี่ยนเสียงสระ จึงเป็นไปได้ที่จัดให้ภาษาคาไรม์อยู่ในกลุ่มนี้
ภาษาคาไรม์ในลิธัวเนียยังคงรักษาลักษณะที่มาจากกลุ่มภาษาเตอร์กิกไว้ได้ แม้จะมาอยู่ในบริเวณที่แวดล้อมด้วยภาษาลิธัวเนีย ภาษารัสเซียและภาษาโปแลนด์มากกว่า 600 ปี คำศัพท์ทางศาสนาในภาษาคาไรม์เป็นภาษาอาหรับ แสดงว่าจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมอยู่ในตะวันออกกลาง[6] คำศัพท์ทางศาสนาอีกส่วนหนึ่งเป็นภาษาฮีบรู ภาษาที่มีอิทธิพลต่อรากศัพท์ภาษาคาไรม์ได้แก่ภาษาอาหรับ ภาษาฮีบรู และภาษาเปอร์เซียในระยะแรก และระยะต่อมาได้แก่ ภาษารัสเซีย ภาษายูเครน ภาษาโปแลนด์ สำหรับชาวยิวคาไรม์ที่อยู่ในรัสเซีย ยูเครน โปแลนด์และลิธัวเนีย
การแพร่กระจาย
ในปัจจุบันมีผู็พูดภาษาคาไรม์อยู่ในไครเมีย ลิธัวเนีย โปแลนด์ อิสราเอลและสหรัฐ แม้ว่าจะมีชาวคาไรม์ 200 คนในลิธัวเนียแต่มีเพียง 1 ใน 4 ที่พูดภาษาคาไรม์
ภาษาคาไรม์แบ่งย่อยได้เป็น 3 สำเนียงคือ
- สำเนียงตะวันออกหรือภาษาคาไรม์ไครเมียซึ่งเคยใช้พูดในไครเมียจนถึงราว พ.ศ. 2443 ปัจจุบันเป็นภาษาตาย
- สำเนียงตะวันตกเฉียงเหนือหรือตราไก ปัจจุบันใช้พูดในเมืองตราไกและวิลเนียส
- สำเนียงตะวันตกเฉียงใต้หรือฮาลิช ใช้พูดในยูเครนเป็นสำเนียงที่ใกล้ตายเหลือผู้พูดเพียง 6 คนใน พ.ศ. 2544[7]
ความสัมพันธ์กับภาษาอื่น
ภาษาคาไรม์มีความเกี่ยวข้องกับภาษาอื่นๆมากมาย รากฐานที่มีต้นกำเนิดในเมโสโปเตเมียทำให้มีความเกี่ยวข้องกับภาษาอาหรับ ภาษาคาไรม์ใช้พูดในไครเมียในช่วงจักรวรรดิออตโตมันจึงมีความเกี่ยวข้องกับภาษาตุรกี และการที่ผู้พูดภาษาคาไรม์มักอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆกระจัดกระจายไปจึงมีความเกี่ยวข้องกับภาษาที่อยูู่รอบๆเช่น ภาษาลิธัวเนีย ภาษาโปแลนด์ ภาษายูเครนและภาษารัสเซีย จึงมีการลอกเลียนรากศัพท์และไวยากรณ์ของภาษาข้างเคียงมาใช้ในภาษาของตน ผู้พูดภาษาคาไรม์มักพูดได้หลายภาษาโดยจะพูดภาษาหลักในบริเวณนั้นๆได้ด้วย บางส่วนที่มีความรู้ทางศาสนาจะรู้ภาษาฮ๊บรู
สถานะของภาษา
สำเนียงส่วนใหญ่ของภาษาคาไรม์เป็นภาษาที่ตายแล้ว การเหลืออยู่ของภาษาคาไรม์ในลิธัวเนีย ปัจจุบันอยู่ในภาวะเสี่ยงเพราะการแพร่กระจายของชาวคาไรม์ในยุคโซเวียตหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีคนสูงอายุที่ยังพูดภาษาคาไรม์อยู่ คนรุ่นใหม่ หันไปพูดภาษาลิธัวเนีย ภาษารัสเซีย หรือภาษาโปแลนด์แทน
ไวยากรณ์
ภาษาคาไรม์เป็นภาษาที่ใช้ปัจจัยและมีลักษณะรูปคำติดต่อมาก ไม่มีคำอุปสรรคและใช้ปรบท คำนามผันได้ 7 การก แต่เดิมภาษาคาไรม์เรียงประโรคแบบกลุ่มภาษาเตอร์กิกคือประธาน-กรรม-กริยา แต่ได้ปรับเปลี่ยนเพราะต้องสื่อสารกับผู้พูดภาษาอื่นๆ ปัจจุบันเป็นแบบ ประธาน-กริยา-กรรม[8]
ในไครเมียและยูเครน ภาษาคาไรม์เขียนด้วยอักษรซีริลลิก ในลิธัวเนียและโปแลนด์ เขียนด้วยอักษรละติน ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 22-24 เขียนด้วยอักษรฮีบรู
อ้างอิง
- Akhiezer, Golda. 2003. “The history of the Crimean Karaites during the sixteenth to eighteenth centuries.” pp. 729–757 in Polliack, Meira (ed.). Karaite Judaism: A Guide to its History and Literary Sources. Boston: Brill.
- Astren, Fred. 2004. Karaite Judaism and Historical Understanding. Columbia, SC: University of South Carolina Press.
- Csató, Éva Ágnes, Nathan, D., & Firkavičiūtė, K. (2003). Spoken Karaim. [London: School of Oriental and African Studies].
- ---. 2001. “Syntactic code-copying in Karaim.”
- Dahl, Östen and Maria Koptjevskaja-Tamm. 2001. Circum-Baltic Languages.
- Gil, Moshe. 2003. “The origins of the Karaites.” pp. 73–118 in Polliack, Meira (ed.). Karaite Judaism: A Guide to its History and Literary Sources. Boston: Brill.
- Hansson, Gunnar Ólafur. 2007. “On the evolution of consonant harmony: the case of secondary articulation agreement.” Phonology. 24: 77-120.
- International Institute of the Crimean Karaites (IICK). 2007. “Crimean Karaites.” <http://karaim-institute.narod.ru/index.htm>.
- Khan, Geoffrey. 2000. The Early Karaite Tradition of Hebrew Grammatical Thought. Boston: Brill.
- Kocaoğlu, T., & Firkovičius, M. (2006). Karay: the Trakai dialect. Languages of the world, 458. Muenchen: Lincom Europa. ISBN 3-89586-490-0
- The language of Western Ukrainian Karaites: Part one. A brief essay : comp. by V. A. Mireyev, N. D. Abrahamowicz - Simferopol, Ukraine – Polevskoy, Russia – Slippery Rock, USA: 2008 – 96 pp.
- The language of Western Ukrainian Karaites: Part two. Karaite-Russian-Ukrainian-English dictionary :comp. by V. A. Mireyev, N. D. Abrahamowicz - Simferopol, Ukraine – Polevskoy, Russia – Slippery Rock, USA: 2008 – 184 pp.
- The language of Western Ukrainian Karaites: Part three. Russian-Karaite Dictionary : comp. by V. A. Mireyev, N. D. Abrahamowicz - Simferopol, Ukraine – Polevskoy, Russia – Slippery Rock, USA: 2008 – 116 pp.
- Nemeth, Michal. 2003. “Grammatical features.” Karaimi. <http://www.karaimi.org/index_en.php?p=301>.
- Nemoy, Leon. 1987. “Karaites.” In Mircea Eliade, ed., The Encyclopedia of Religion. New York: MacMillan.
- Oesterley, W. O. E. and G. H. Box. 1920. A Short Survey of the Literature of Rabbinical and Mediaeval Judaism. Burt Franklin: New York.
- Schur, Nathan. 1995. “Karaites in Lithuania.” in The Karaite Encyclopedia. <http://www.turkiye.net/sota/karalit.html>.
- SIL International. 2007. “Linguistic Lineage for Karaim.” Ethnologue.com. <http://www.ethnologue.com/show_lang_family.asp?code=kdrZ>.
- Tsoffar, Ruth. 2006. Stains of Culture: an Ethno-Reading of Karaite Jewish Women. Detroit: Wayne State University Press.
- Tütüncü, Mehmet and Inci Bowman. 1998. “Karaim Homepage.” <http://www.turkiye.net/sota/karaim.html>.
- Zajaczkowski, Ananiasz. 1961. Karaims in Poland.