คิงส์แมน รวมพลังโคตรพยัคฆ์
คิงส์แมน รวมพลังโคตรพยัคฆ์ | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | แมทธิว วอห์น |
บทภาพยนตร์ |
|
สร้างจาก | Kingsman โดย มาร์ก มิลลาร์ เดฟ กิบเบินส์ |
อำนวยการสร้าง |
|
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | จอร์จ ริชมอนด์ |
ตัดต่อ | เอดดี แฮมิลตัน |
ดนตรีประกอบ | |
บริษัทผู้สร้าง |
|
ผู้จัดจำหน่าย | 20th Century Fox (สหรัฐ) แคททาลิสท์ อัลลายแอนซ์ (ไทย) |
วันฉาย | 20 กันยายน ค.ศ. 2017 (สหราชอาณาจักร) 22 กันยายน ค.ศ. 2017 (สหรัฐอเมริกา) |
ความยาว | 141 นาที[1] |
ประเทศ |
|
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 104 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2] |
ทำเงิน | 410.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3] |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
คิงส์แมน รวมพลังโคตรพยัคฆ์ (อังกฤษ: Kingsman: The Golden Circle) เป็นภาพยนตร์โลดโผน/สายลับ/ตลก กำกับ, ร่วมอำนวยการสร้างและร่วมเขียนบทโดย แมทธิว วอห์น เป็นภาคต่อของ คิงส์แมน โคตรพิทักษ์บ่มพยัคฆ์ เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2017[4]
ภาคต่อ คิงส์แมน: ราชันโคตรพยัคฆ์ กำหนดฉายในปี ค.ศ. 2025 ภาพยนตร์ปฐมบท กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน ออกฉายในสหรัฐวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2021
เรื่องย่อ
[แก้]หนึ่งปีหลังจากปกป้องโลกจากริชมอนด์ วาเลนไทน์ เอ็กซี สายลับคิงส์แมนอาศัยอยู่กับเจ้าหญิงทิลดาแห่งสวีเดน ผู้เป็นแฟนสาว วันหนึ่งขณะกลับบ้าน เอ็กซีถูกชาร์ลี เฮสเก็ธ อดีตผู้สมัครสายลับคิงส์แมนที่สูญเสียแขนและกล่องเสียงหลังสู้กับเอ็กซีเมื่อปีก่อนดักทำร้าย เอ็กซีหนีรอดไปได้ แต่แขนกลของชาร์ลีสามารถแฮ็กเข้าระบบของคิงส์แมน เมื่อเอ็กซีไปรับประทานอาหารกับพ่อแม่ของเจ้าหญิง เขาพบว่าศูนย์บัญชาการของคิงส์แมนถูกโจมตี ทำให้สายลับคิงส์แมนหลายคนเสียชีวิต
เอ็กซีและเมอร์ลิน ฝ่ายเทคนิกของคิงส์แมนเริ่ม "แผนวันสิ้นโลก" ทั้งสองเดินทางไปที่รัฐเคนทักกี เพื่อพบกับกลุ่ม "สเตตส์แมน" องค์กรสายลับของอเมริกา ที่นั่น เอ็กซีและเมอร์ลินถูกเตกีลา สายลับสเตตส์แมนจับตัวและทั้งสองพบว่าแฮร์รี ฮาร์ตยังมีชีวิตอยู่ แต่สูญเสียความทรงจำจากการถูกยิงที่ศีรษะ ต่อมาเอ็กซีและเมอร์ลินหารือเรื่ององค์กรก่อการร้ายชื่อ "เดอะโกลเดนเซอร์เคิล" กับแชมเปญ หัวหน้ากลุ่มสเตตส์แมน โดยเอ็กซีและวิสกี สายลับสเตตส์แมนอีกคนเริ่มสืบจากคลารา แฟนเก่าของชาร์ลี ด้านฮาร์ตซึ่งยังความจำเสื่อมถูกเอ็กซีขู่ว่าจะยิงสุนัขที่คล้ายกับที่ตนเคยเลี้ยงไว้ทิ้ง ทำให้ความทรงจำของฮาร์ตถูกกระตุ้นและกลับคืนมาในที่สุด
ป็อปปี อดัมส์ หัวหน้ากลุ่มค้ายารายใหญ่ประกาศว่าเธอผสมยาพิษลงในยาที่มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ได้รับพิษมีผื่นสีน้ำเงิน มีอาการฟุ้งพล่าน ก่อนจะเป็นอัมพาตและเสียชีวิต โดยเธอจะส่งยาถอนพิษให้แลกกับการที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศยุติสงครามต่อต้านยาเสพติดและอภัยโทษให้แก่เธอและพรรคพวก ด้านประธานาธิบดีทำทีเป็นยอมรับข้อเสนอแต่สั่งให้กักกันผู้ป่วยทุกคนไว้เพื่อปล่อยให้ตาย เอ็กซี, ฮาร์ตและวิสกีเดินทางไปที่โรงงานผลิตยาถอนพิษในอิตาลีเพื่อขโมยตัวอย่างยา แต่ตัวอย่างยากลับเสียหายหลังปะทะกับคนของป็อปปี ฮาร์ตยิงวิสกีหลังสงสัยว่าเขาอาจเป็นสายลับสองหน้า ด้านเอ็กซีพบว่าเจ้าหญิงทิลดาโทรมาหาด้วยอาการฟุ้งพล่านและมีผื่นสีน้ำเงิน เขาและฮาร์ตจึงต้องรีบหาที่ซ่อนของป็อปปีเพื่อหวังชิงกระเป๋าที่มีคำสั่งส่งยาถอนพิษ
เอ็กซี, ฮาร์ตและเมอร์ลินเดินทางไปที่ฐานของป็อปปีที่อยู่กลางป่าในกัมพูชา โดยเมอร์ลินสละชีวิตตัวเองเพื่อเปิดทางให้เอ็กซีและฮาร์ตบุกเข้าไป ฮาร์ตจัดการกับหุ่นยนต์สุนัขของป็อปปี ส่วนเอ็กซีฆ่าชาร์ลีก่อนที่จะเผชิญหน้ากับป็อปปี เอ็กซีและฮาร์ตฉีดยาพิษใส่ป็อปปีเพื่อให้เธอบอกรหัสก่อนจะถูกปล่อยให้ตาย แต่ก่อนที่ทั้งสองจะป้อนรหัส วิสกีก็เข้ามาขัดขวางโดยเปิดเผยว่าตนเคยสูญเสียคนรักในเหตุยิงกันของผู้ที่ติดยาเสพติด จึงเห็นด้วยกับการที่ปล่อยให้ผู้ที่ติดยาเสียชีวิต เอ็กซีและฮาร์ตจึงร่วมกันสู้กับวิสกีก่อนจะฆ่าเขาได้สำเร็จ และปลดล็อกคำสั่งให้ส่งยาถอนพิษไปทั่วโลก
หลังเหตุการณ์ทั้งหมดยุติ ประธานาธิบดีสหรัฐถูกจับกุมไปดำเนินคดี ด้านแชมเปญประกาศว่ากลุ่มสเตตส์แมนได้เข้าควบรวมโรงกลั่นในสกอตแลนด์เพื่อช่วยฟื้นฟูคิงส์แมน เขายังเสนอตำแหน่งวิสกีที่ว่างอยู่ให้เอ็กซีและฮาร์ต แต่ทั้งสองปฏิเสธเพื่อเปิดทางให้จิงเจอร์ เอล ฝ่ายเทคนิกของสเตตส์แมนรับตำแหน่งนี้ ภาพยนตร์จบลงเมื่อเอ็กซีเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าหญิงทิลดา และเตกีลาย้ายมาที่ลอนดอนเพื่อทำงานให้กับคิงส์แมน
นักแสดง
[แก้]- ทารอน เอเกอร์ตัน รับบท เอ็กซี อันวิน สายลับคิงส์แมน
- โคลิน เฟิร์ธ รับบท แฮร์รี ฮาร์ต สายลับคิงส์แมน ผู้เชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้วในภาคก่อน
- จูลีแอนน์ มัวร์ รับบท ป็อปปี อดัมส์ หัวหน้ากลุ่มค้ายารายใหญ่ที่สุดในโลก
- มาร์ก สตรอง รับบท เมอร์ลิน ฝ่ายเทคนิคของคิงส์แมน
- ฮัลลี เบอร์รี รับบท จิงเจอร์ เอล ฝ่ายเทคนิคของสเตตส์แมน
- เปโดร ปาสกาล รับบท วิสกี สายลับสเตตส์แมน
- แชนนิง เททัม รับบท เตกีลา สายลับสเตตส์แมน
- เจฟฟ์ บริดเจส รับบท แชมเปญ "แชมป์" หัวหน้ากลุ่มสเตตส์แมน
- เอลตัน จอห์น รับบท เอลตัน จอห์น (รับบทเป็นตัวของเขาเอง)
- เอดเวิร์ด โฮลครอฟต์ รับบท ชาร์ลี เฮสเก็ธ อดีตผู้สมัครสายลับคิงส์แมนและคู่ปรับของเอ็กซี หนึ่งในสมุนของป็อปปี
- ฮันนา อัลสเตริม รับบท เจ้าหญิงทิลดา แฟนสาวของเอ็กซี
- บรูซ กรีนวูด รับบท ประธานาธิบดีสหรัฐ
- ป็อปปี เดเลอวีญ รับบท คลารา ฟอน กลัคฟ์เบิร์ก แฟนเก่าของชาร์ลี
ภาคต่อ
[แก้]เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017 แมททิว วอห์นกล่าวว่าภาพยนตร์ภาคต่อของ คิงส์แมน รวมพลังโคตรพยัคฆ์ กำลังอยู่ในขั้นพัฒนา[5] ต่อมาในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2018 มีการประกาศว่าภาพยนตร์ภาคต่อจะถ่ายทำไปพร้อม ๆ กับภาพยนตร์ปฐมบท กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน และจะเป็น "บทสรุปของความสัมพันธ์ระหว่างเอ็กซีและแฮร์รี" โดยโคลิน เฟิร์ธและทารอน เอเกอร์ตันจะกลับมารับบทบาทเดิม วอห์นยังกล่าวเพิ่มเติมว่าการผลิตจะเริ่มช่วงระหว่างปลายปี ค.ศ. 2019 ถึงต้นปี ค.ศ. 2020[6][7][8] ต่อมาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2020 มีการเปิดเผยชื่อภาพยนตร์ภาคต่อนี้ในนิตยสาร เอมไพร์ ว่า Kingsman: The Blue Blood[9]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "KINGSMAN: THE GOLDEN CIRCLE (15)". British Board of Film Classification. สืบค้นเมื่อ September 1, 2017.
- ↑ "September B.O. Booming To Near All-Time $700M Record As 'Kingsman: The Golden Circle' & 'Lego Ninjago' Enter Fall Fray". Deadline.com. 20 September 2017. สืบค้นเมื่อ 20 September 2017.
- ↑ "Kingsman: The Golden Circle (2017)". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ 21 March 2018.
- ↑ "Kingsman: The Golden Circle – first trailer released for spy movie sequel". The Guardian. 25 April 2017. สืบค้นเมื่อ 15 September 2017.
- ↑ Mitchell, Robert (May 5, 2017). "Matthew Vaughn Says Third 'Kingsman' Film Already Planned". สืบค้นเมื่อ May 28, 2017.
- ↑ Travis, Ben; Hewitt, Chris (8 June 2018). "Kick-Ass Reboot and Kingsman Universe Coming from Matthew Vaughn's New Studio – EXCLUSIVE". Empire Magazine.
- ↑ Murphy, Charles (August 9, 2018). "EXCLUSIVE: Details on 'KINGSMAN 3'". Empire Magazine.
- ↑ Seddon, Dan; Sandwell, Ian (May 25, 2019). "Exclusive: Kingsman 3 will tell "final chapter" of Harry and Eggsy relationship". Digital Spy.
- ↑ Empire September 2020 - "Resuited and Rebooted" from Chris Hewitt