ฮอมส์
ฮอมส์ ฮิมศ์ | |
---|---|
เมือง | |
สมญา: The city of Ibn al-Walid | |
พิกัด: 34°43′51″N 36°42′34″E / 34.73083°N 36.70944°E | |
ประเทศ | ซีเรีย |
เขตผู้ว่าราชการ | เขตผู้ว่าราชการฮอมส์ |
เขต | ฮอมส์ |
Settled | 2000 BC |
การปกครอง | |
• Governor | Ghassan Mustafa Abdul-Aal[1] |
• President of City Council | Nadia Kseibi |
พื้นที่ | |
• เมือง | 48 ตร.กม. (19 ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 76 ตร.กม. (29 ตร.ไมล์) |
• รวมปริมณฑล | 104 ตร.กม. (40 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 501 เมตร (1,644 ฟุต) |
ประชากร (2011) | |
• เมือง | 1,267,000 คน |
• รวมปริมณฑล | 1,763,000 คน |
เขตเวลา | UTC+3 (EET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+2 (EEST) |
รหัสพื้นที่ | 31 |
เว็บไซต์ | http://www.homscitycouncil.org.sy |
ฮอมส์ (อังกฤษ: Homs) หรือ ฮิมศ์ (อาหรับ: حمص) หรือเดิมรู้จักในชื่อ เอเมซา (กรีก: Ἔμεσα, Emesa)[2] เป็นเมืองตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศซีเรีย เป็นเมืองหลวงของเขตผู้ว่าราชการฮอมส์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 501 เมตร (1,644 ฟุต) ตั้งอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสทางทิศเหนือราว 162 กิโลเมตร (101 ไมล์)[3] บนฝั่งแม่น้ำออรันตีส ฮอมส์ยังเป็นเมืองศูนย์กลางที่เชื่อมโยงเมืองภายในกับเมืองชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ชาวอาหรับเข้ายึดครองเมืองในปี ค.ศ. 636 แล้วเปลี่ยนชื่อจากเอเมซามาเป็นฮิมศ์ ตกเป็นของชาวออตโตมันในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ชาวอียิปต์เข้าครอบครองใน ค.ศ. 1827 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ถูกชาวอังกฤษและชาวอาหรับยึดครอง ค.ศ. 1918
ปัจจุบัน ฮอมส์เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลและกลั่นน้ำมัน มีประชากร 1.5 คน เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของซีเรีย รองจากอะเลปโปและเมืองหลวงดามัสกัส ประชากรนับถือศาสนาที่หลากหลายกันไป โดยมากเป็นมุสลิมนิกายซุนนีที่พูดภาษาอาหรับ และมุสลิมอาละวีและคริสต์ศาสนิกชนเป็นส่วนน้อย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ H. Zain/ H.Said / Al-Ibrahim (21 April 2011). "President al-Assad Swears in Homs New Governor". Syrian Arab News Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-04. สืบค้นเมื่อ 21 April 2011.
- ↑ Vailhé, Siméon (1909). "Emesa". Catholic Encyclopedia. Robert Appleton Company. สืบค้นเมื่อ 26 February 2009.
- ↑ "Distance Between Main Syrian Cities". HomsOnline. 16 May 2008. สืบค้นเมื่อ 26 February 2009.