ข้ามไปเนื้อหา

กองทัพภาคที่ 3

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก แม่ทัพภาคที่ 3)
กองทัพภาคที่ 3
ตราประจำกองทัพภาคที่ 3
ประจำการกองทัพที่ 2 (2454 – 2460, 2472 – 2493)
กองทัพทหารบกที่ 7 (2460 – 2464)
กองทัพที่ 3 (2464 – 2472)
ภาคทหารบกที่ 3 (2493 – 2501)
กองทัพภาคที่ 3 (2501 – ปัจจุบัน)
ประเทศ ไทย
ขึ้นต่อพระมหากษัตริย์ไทย
เหล่า กองทัพบกไทย
รูปแบบผสมเหล่า
กำลังรบกองทัพ
ขึ้นกับกองทัพบกไทย
กองบัญชาการค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 65000
วันสถาปนา20 สิงหาคม
ปฏิบัติการสำคัญกรณีพิพาทกู่เต็งนาโย่ง
เว็บไซต์http://www.army3.mi.th/home.php
ผู้บังคับบัญชา
ผู้บัญชาการปัจจุบันพลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ[1]
ผบ. สำคัญพลโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ (ผู้บัญชาการคนแรก)
พลเอก ประพันธ์ กุลพิจิตร
พลเอก สำราญ แพทยกุล
พลเอก ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน
พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา

กองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3) ของกองทัพบกไทย ได้รับการก่อตั้งเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2445 รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด และภาคกลางในบางส่วน ตั้งกองบัญชาการที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก

ประวัติ

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมืองแพร่อยู่ในฐานะเป็นเมืองประเทศราช มีเจ้าพิริยเทพวงษ์ เป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2445 ได้เกิดกลุ่มโจรเงี้ยวประมาณ 40 คน สมทบกับกลุ่มโจรเงี้ยวบ้านป่าผึ้ง พร้อมอาวุธปืนยกกำลังเข้ายึดโรงพักตำรวจภูธรเมืองแพร่, โรงไปรษณีย์โทรเลข, บ้านข้าหลวง, ที่ว่าการเมืองแพร่, ศาล และคุก เมื่อทำการสำเร็จ มีพวกเงี้ยวกับนักโทษที่ได้รับการปลดปล่อยออกมาเข้าสมทบอีกประมาณ 400 คน ได้ก่อการวุ่นวายรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยแยกกันเป็นหมู่เข้าปล้นบ้านคนไทย จับพระยาไชยบูรณ์ ข้าหลวงกำกับการเมืองแพร่ และจับราษฎรตลอดจนเด็กที่เป็นคนไทยภาคกลางมาเข่นฆ่าอย่างทารุณ จากนั้นได้ยกกำลังเข้าปล้นเมืองลำปาง และส่วนหนึ่งยกมาสกัดกั้นกองทัพไทยที่บริเวณเขาพลึง บริเวณชายแดนเมืองแพร่ต่ออุตรดิตถ์

วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2445 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้พลโท เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) เป็นแม่ทัพใหญ่คุมกองทหารจากกรุงเทพฯ และราชบุรี จำนวน 8 กองพัน ยกไปปราบกลุ่มโจรเงี้ยวที่เมืองแพร่และลำปาง และทรงโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการเมืองพิชัย, ผู้ว่าราชการเมืองสุโขทัย, ผู้ว่าราชการเมืองตาก และผู้ว่าราชการเมืองพิษณุโลกคุมไพร่พลยกไปล่วงหน้า

วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2445 กองทัพของพลโท เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) เดินทางไปถึงเมืองแพร่ ต่อมาได้จัดการสอบสวนจับกุมผู้กระทำผิด หรือสมคบกระทำผิดเพื่อส่งฟ้องศาลเป็นที่เรียบร้อย และส่งให้กองกำลังเมืองต่างๆ ที่ไม่มีความจำเป็นกลับภูมิลำเนาเดิม ทําให้เกิดความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา กองทัพภาคที่ 3 จึงยึดเอาวันที่ 20 สิงหาคมเป็นวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ของทุกปี[2]

นับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2445 กองทัพภาคที่ 3 มีวิวัฒนาการพัฒนาหน่วยเรื่อยมาตามลําดับ จนในปี พ.ศ. 2501 ได้แปรสภาพเป็นกองทัพภาคที่ 3 จวบจนปัจจุบัน ทั้งนี้ไปตามนโยบาย และภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ซึ่งมีภารกิจหลัก 4 ประการ ได้แก่ การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยภายใน การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการช่วยพัฒนาประเทศ[3]

หน่วยขึ้นตรง​

ส่วนบัญชาการ​​

ส่วนกำลังรบ

ส่วนสนับสนุนการช่วยรบ

ส่วนภูมิภาค

ส่วนช่วยการพัฒนาประเทศ

รายพระนามและรายนามแม่ทัพภาค

รายพระนามและรายนามแม่ทัพภาค​
ลำดับ พระนามและนาม วาระการดำรงตำแหน่ง หมายเหตุ
1 พลโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ พ.ศ. 2454 - 2457 แม่ทัพกองทัพน้อยที่ 2
2 พลโท หลวงวีระโยธา (วีระ วีระโยธา) พ.ศ. 2494 - 2494
3 พลโท หลวงสวัสดิ์สรยุทธ (ดล บุนนาค) พ.ศ. 2494 - 2495
4 พลโท หลวงจุลยุทธยรรยง (ทองจุล ศุภชรัสส์) พ.ศ. 2495 - 2497
5 พลโท ครวญ สุทธานินทร์ พ.ศ. 2497 - 2499
6 พลโท ผ่อง บุญสม พ.ศ. 2499 - 2499
7 พลโท ประพันธ์ กุลพิจิตร พ.ศ. 2501 - 2506
8 พลโท อรรถ ศศิประภา พ.ศ. 2506 - 2509
9 พลโท อ่อง โพธิกนิษฐ พ.ศ. 2509 - 2512
10 พลโท สำราญ แพทยกุล พ.ศ. 2512 - 2516
11 พลโท ประสาน แรงกล้า พ.ศ. 2516 - 2517
12 พลโท ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พ.ศ. 2517 - 2518
13 พลโท สมศักดิ์ ปัญจมานนท์ พ.ศ. 2518 - 2521
14 พลโท สีมา ปาณิกบุตร พ.ศ. 2521 - 2524
15 พลโท พร้อม ผิวนวล พ.ศ. 2524 - 2526
16 พลโท เทียบ กรมสุริยศักดิ์ พ.ศ. 2526 - 2528
17 พลโท รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ พ.ศ. 2528 - 2529
18 พลโท ชัยชนะ ธารีฉัตร พ.ศ. 2529 - 2530
19 พลโท ศิริ ทิวะพันธุ์ พ.ศ. 2530 - 2533
20 พลโท ไพโรจน์ จันทร์อุไร พ.ศ. 2533 - 2535
21 พลโท ยิ่งยส โชติพิมาย พ.ศ. 2535 - 2537
22 พลโท สุรเชษฐ เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา พ.ศ. 2537 - 2538
23 พลโท ถนอม วัชรพุทธ พ.ศ. 2538 - 2541
24 พลโท สมหมาย วิชาวรณ์ พ.ศ. 2541 - 2542
25 พลโท วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ พ.ศ. 2542 - 2544
26 พลโท อุดมชัย องคสิงห พ.ศ. 2544 - 2546
27 พลโท พิชาญเมธ ม่วงมณี พ.ศ. 2546 - 2548
28 พลโท สพรั่ง กัลยาณมิตร พ.ศ. 2548 - 2549
29 พลโท จิรเดช คชรัตน์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 - 30 กันยายน พ.ศ. 2550
30 พลโท สำเริง ศิวาดำรงค์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2550 - 30กันยายน พ.ศ. 2551
31 พลโท ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551 - 30 กันยายน พ.ศ. 2553
32 พลโท วรรณทิพย์ ว่องไว 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2555
33 พลโท ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ 1 เมษายน พ.ศ. 2555 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2556
34 พลโท ปรีชา จันทร์โอชา 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 30 กันยายน พ.ศ. 2557
35 พลโท สาธิต พิธรัตน์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 - 30 กันยายน พ.ศ. 2558
36 พลโท สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 - 30 กันยายน พ.ศ. 2559
37 พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 - 30 กันยายน พ.ศ. 2561
38 พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 - 30 กันยายน พ.ศ. 2563
39 พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 - 30 กันยายน พ.ศ. 2565[5][6]
40 พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 - 30 กันยายน พ.ศ. 2566
41 พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2566 - 30 กันยายน พ.ศ. 2567
42 พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567

หมายเหตุ ยศทหารเป็นยศขณะดำรงตำแหน่งตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี

ค่ายทหารที่ตั้งปกติในพื้นที่

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 141 ตอนพิเศษ 262 ง 21 กันยายน พ.ศ. 2567
  2. "ผบ.ทบ. ร่วมวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 120 ปี กองทัพภาคที่ 3". matichon online (ภาษาอังกฤษ). 2022-08-20. สืบค้นเมื่อ 2024-03-29.
  3. "history of 3rd Army Area". 3rd Army Area (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-03-29.
  4. กองทัพจัดตั้ง “พล.ร.7” รับมือภัยคุกคามฝั่งตะวันตก – สแกนกำลัง “ชนกลุ่มน้อย-พม่า” กับสัญญาณแรก “นะคะมวย” สืบค้นเมือ 14 พฤศจิกายน 2564
  5. ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ หน้า ๓๑ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑๘ ง ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหารชั้นนายพล หน้า ๑๒ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๔ ข ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓